วันที่ 8 ก.ค.67 นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยได้ โพสต์เฟซบุค ระบุความพยายามนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด โดยระบุว่า การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงสู้เรื่องกัญชา แต่คือการสู้กับระบบผูกขาดของพรรคเพื่อไทย เราร่วมกันทำกฎหมาย พ.ร.บ.เพื่อควบคุมกัญชากันมา 2 ปี ทั้งเดินทางทั่วประเทศเพื่อระดมความเห็นและร่วมลงชื่อกันเพื่อเสนอกฎหมายจำนวนหนึ่งหมื่นรายชื่อเพื่อเสนอกฎหมายควบคุมกัญชา

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในขณะนี้มีกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชาจำนวน 4 ฉบับที่ได้ผ่านขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อให้นายกรัฐมนตรีลงนามเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลนี้มา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่เคยสนใจกฎหมายควบคุมกัญชาแต่อย่างใด การพูดอันตรายของกัญชาต่อเยาวชนเป็นกระบวนการปั่นให้ประชาชนกล่าวร้ายต่อกัญชาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ตัวเองมีความชอบธรรมในการใช้กฎหมายผูกขาดกัญชา มีนโยบายใดบ้างของพรรคเพื่อไทยที่ไม่ขูดรีดประชาชน คนแบบเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นพ่อค้าที่แสวงหากำไรมาตลอดชีวิต วันนี้ด้วยกลเกมส์ทางการเมืองกลับกลายมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จงตระหนักว่าอย่าใช้พฤติกรรมทางธุรกิจมาบริหารนโยบายสาธารณะ

“นายเศรษฐา เป็นคนออกคำสั่งให้สมศักดิ์นำกัญชากลับสู่ยาเสพติดทั้งที่ไม่มีข้อเท็จจริงใหม่ที่แสดงให้เห็นว่ากัญชาร้ายต่อสังคมอย่างไร เป้าหมายอย่างเดียวคือนำกัญชาไปสู่กฎหมายที่ผูกขาดได้ คือกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้กลุ่มของตัวเองผูกขาดกัญชามูลค่าหลายหมื่นล้าน คำสั่งของนายเศรษฐาไม่ได้ถูกบังคับโดยกฎหมายใด เป็นเพียงความอยากส่วนตัวเพื่อควบคุมผลประโยชน์ให้ตกแก่พวกพ้องเหมือนหลายนโยบายที่ทำมาแล้วและกำลังทำของพรรคเพื่อไทย

วันนี้ถึงเวลาแล้วที่สังคมจะต้องกระชากหน้ากากของพรรคเพื่อไทยออกมาว่าในขณะนี้ได้วางกลไกทางนโยบายในการขูดรีดประชาชนอย่างไร กัญชาเป็นเพียงผลผลิตหนึ่งในกลเกมส์ที่จะขูดรีดผลประโยชน์จากประชาชน นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นต้นไป เป้าหมายที่ต้องเปิดโปงคือพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน กำลังผูกขาดกัญชาและผลประโยชน์อื่นของประชาชนอย่างไรก่อนที่ประชาชนจะไม่เหลืออะไรเลย นายเศรษฐา ทวีสิน คือตัวการสำคัญที่นำกัญชาสู่ยาเสพติดเพื่อผูกขาดกัญชาให้พวกพ้อง” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว