เช็กที่นี่! เปิด 6 ขั้นตอนลงทะเบียนยืนยันตัวตนแอปทางรัฐ รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท
แอปทางรัฐเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่พัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการประชาชนแบบครบวงจร เปรียบเสมือนแอปเดียวที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการในการติดต่อและรับบริการจากภาครัฐ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของหน่วยงานต่างๆ
ขั้นตอนลงทะเบียนเงินดิจิทัล ผ่านแอปทางรัฐ รับเงิน 10,000 บาทมี 6 วิธีได้แก่
วิธีที่ 1 การลงทะเบียนเข้าใช้งานผ่านแอปทางรัฐ
-เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วกดที่ปุ่ม “สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ”
-เลือกสมัครสมาชิก
-เลือกสมัครด้วยบัตรประชาชน
-ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกดยอมรับ
-ศึกษาข้อแนะนำการสแกนบัตรประชาชน แล้วกดเริ่มสแกนหน้าบัตร
-สแกนหน้าบัตรประชาชน
-สแกนหลังบัตรประชาชน
-ตรวจสอบข้อมูลแล้วกดไปขั้นตอนถัดไป
-ศึกษาข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกดเริ่มยืนยันตัวตน
-สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
-พยักหน้าช้าๆอย่างต่อเนื่อง
-กำหนดชื่อบัญชีผู้และรหัสผ่าน แล้วกดยืนยัน
-ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
-ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
-เปิดการใช้งานสแกนใบหน้าโดยกดใช้งาน จากนั้นทำการสแกนใบหน้า
-เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จ ให้กดเริ่มใช้งาน
-จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ บนแอปฯ ทางรัฐได้ทันที
วิธีที่ 2 การยืนยันตัวตนผ่านตู้อเนกประสงค์ภาครัฐ
-สอดบัตรประชาชนที่ตู้บริการอเนกประสงค์ของรัฐ เพื่อเข้าสู่ระบบ
-ศึกษาการให้ความยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้ตู้บริการอเนกประสงค์ของรัฐแล้วกดตกลง
-กดลงทะเบียนทางรัฐที่หน้าเมนู
-หน้าจอจะแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งาน จากนั้นให้กดยืนยันข้อมูล
-กรอกรหัส OTP 6 หลัก ที่ได้รับทาง SMS ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกดยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ
-กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกดยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ
-หน้าจอจะแสดงผลว่า ท่านยืนยันข้อมูลสำเร็จแล้ว จากนั้นให้ดึงบัตรประชาชนออก และกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชั่นทางรัฐ
-กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานลงทะเบียนผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นกดเข้าสู่ระบบ
-เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว จะเข้าสู่หน้าการยืนยันตัวตน ให้ผู้ใช้งานกดเริ่มยืนยันตัวตน
-ศึกษาข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกดเริ่มยืนยันตัวตน
-สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
-พยักหน้าช้าๆอย่างต่อเนื่อง
-ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
-ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
-เปิดการใช้งานสแกนใบหน้าโดยกดใช้งาน จากนั้นทำการสแกนใบหน้า
-เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จให้กดเริ่มใช้งาน
-จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆในแอปพลิเคชั่นทางรัฐได้ทันที
วิธีที่ 3 การลงทะเบียนเข้าใช้งานผ่าน แอปพลิเคชัน ThaID ของ กรมการปกครอง
-เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วกดสมัครใช้งาน
-กดเข้าสู่ระบบด้วย ThaID
-ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกดยอมรับ จากนั้นระบบจะนำเข้าสู่แอปฯ ThaID
-กรอกรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานได้จากการลงทะเบียนแอปฯ ThaID
-ระบบจะนำไปสู่การยืนยันตัวตนให้กดที่ยินยอม
-กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
-จากนั้นระบบจะนำเข้าสู่แอปฯ ทางรัฐ
-ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
-เปิดการใช้งานสแกนใบหน้าโดยกดใช้งาน จากนั้นทำการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าสู่ระบบ
-เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จให้กดเริ่มใช้งาน
-จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆบนแอปฯทางรัฐได้ทันที
วิธีที่ 4 การยืนยันตัวตนผ่านตู้บุญเติม
-เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการสมัครโดยกดเลือกสมัครที่ตู้บุญเติม
-เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือของท่านไปที่ตู้บุญเติมที่รองรับการยืนยันตัวตน
-เลือกเมนูทางรัฐแล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอของตู้บุญเติม
-เสียบบัตรประชาชนของท่านที่ช่องเสียบบัตรประชาชนของตู้บุญเติม
-เมื่อทำตามขั้นตอนที่ตู้บุญเติมเสร็จแล้ว ให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯ ทางรัฐ (กรุณาดึงบัตรประชาชนของท่านออกหลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น)
-หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปฯทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกดเริ่มสแกนใบหน้า
-สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
-เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จให้กดสมัครสมาชิก
-ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว แล้วกดทำเครื่องหมาย ที่ช่องสี่เหลี่ยมจากนั้นกดยอมรับ
-กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และรหัสผ่านตามคำแนะนำแล้วกดยืนยัน
-ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
-ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
-เปิดการใช้งานสแกนอัตลักษณ์บุคคล
-เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกดเริ่มใช้งาน
-จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชั่นทางรัฐได้ทันที
วิธีที่ 5 การยืนยันตัวตนผ่านไปรษณีย์
-เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการยืนยันตัวตน โดยเลือกยืนยันตัวตนที่ทำการไปรษณีย์
-เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือของท่านไปยังที่ทำการไปรษณีย์(สามารถใช้บริการได้ทุกสาขา)
-จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการยืนยันตัวตนแอปฯทางรัฐ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
-เมื่อทำตามขั้นตอนเร็จเรียบร้อยแล้วอย่าลืมตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และชื่อ-นามสกุล ในใบเสร็จ จากนั้นให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯทางรัฐ
-หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแนใบหน้าในแอปฯทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกดเริ่มสแกนใบหน้า
-สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
-เมื่อผู้ใช้งานสแดนใบหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จแล้วให้กดสมัครสมาชิก
-ศึกษาข้อกำหนด และความเป็นส่วนตัวแล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยมจากนั้นกดยอมรับ
-กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน ตามคำแนะนำแล้วกดยืนยัน
-ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
-ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
-เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคลโดยกดปุ่มใช้งาน
-เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกดเริ่มใช้งาน
-จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆในแอปพลิเคชั่นทางรัฐได้ทันที
วิธีที่ 6 การยืนยันตัวตนผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven
-เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการยืนยันตัวตน โดยกดเลือกยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven
-ระบุเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือ จากนั้นกดสร้าง QR Code
-แจ้งพนักงานว่ามายืนยันตัวตนแอปฯทางรัฐ และแสดง QR Code ให้สแกนจากนั้นเสียบบัตรประชาชนที่เครื่องอ่านบัตร รับใบเสร็จแล้วกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯทางรัฐ
-หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปฯทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกดเริ่มสแกนใบหน้า
-สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
-เมื่อผู้ใช้งานสแกนใบหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จแล้วให้กดสมัครสมาชิก
-ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว แล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยมจากนั้นกดยอมรับ
-กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านตามคำแนะนำแล้วกดยืนยัน
-ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อึวามปลอดภัยในการใช้งาน
-ระบุ Pin code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
-เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคลโดยกดปุ่มใช้งาน
-เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้ว กดเริ่มใช้งาน
-จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆในแอปพลิเคชั่นทางรัฐได้ทันที
ประเภทสินค้าที่อยู่ในโครงการ
สินค้าที่สามารถซื้อขายด้วยเงินดิจิทัลได้ ได้แก่
1.สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ของใช้ในครัวเรือน
2.สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น อุปกรณ์การเรียน หนังสือ
3.วัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์
4.สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผัก ผลไม้ ของฝาก
5.ยารักษาโรค
6.เครื่องสักการะ
สินค้าที่ไม่อยู่ในโครงการ ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ กัญชา ผลิตภัณฑ์จากกัญชงและกระท่อม หวยใต้ดิน ทองคำ เพชร พลอย และน้ำมันเชื้อเพลิง
ระยะเวลาดำเนินโครงการ
โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีกำหนดเริ่มต้นในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อรองรับการใช้งานจริง ทั้งเว็บไซต์ ระบบลงทะเบียน ระบบการใช้จ่ายและชำระเงิน ระบบตรวจสอบธุรกรรม รวมถึงการเชื่อมต่อกับธนาคารอื่นๆ
#ดิจิทัลวอลเล็ต #ข่าววันนี้ #แอปทางรัฐ #รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต #ลงทะเบียน