สุริยะ ฮึ่ม! สั่ง รฟม. ส่งหนังสือถึง NBM ผู้รับสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีชมพู จ่อดำเนินการตามบทลงโทษขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุประตูขบวนรถเปิดกลางทาง ลั่น ไม่สามารถประนีประนอม-ต่อรองได้ ขู่หากไม่ปรับปรุงจ่อตัดคะแนน-ขึ้นแบล็กลิสต์

    
 เมื่อวันที่ 7 ก.ค.67 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีประตูบางส่วนของขบวนรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เปิดที่สถานีลาดปลาเค้า (PK18) เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ก.ค.67 ที่ผ่านมาว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้โดยสาร จึงได้กำชับให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปดำเนินการตามบทลงโทษขั้นสูงสุดกับบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน ตามที่ระบุไว้ในสัญญา
    
 นายสุริยะ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว ถือเป็นเรื่องความปลอดภัยด้านการขนส่งสาธารณะของประชาชน ประกอบกับในช่วงปีที่ผ่านมา โครงการรถไฟฟ้ามหานครทั้งสายสีชมพูและสายสีเหลืองที่ดำเนินการโดยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ ไม่สามารถประนีประนอมหรือต่อรองได้ อย่างไรก็ตาม มอบหมายให้ รฟม. ส่งหนังสือไปยังผู้รับสัมปทานถึงบทลงโทษที่จะดำเนินการจากกรณีที่เกิดขึ้น อีกทั้ง หากไม่เร่งรัดปรับปรุงมาตรการในการดำเนินการตามที่สัญญากำหนดไว้จะบันทึกผลงาน และถูกตัดคะแนน รวมถึงห้ามเข้าร่วมประมูลงานของกระทรวงฯ และจะมีการลดลำดับชั้นผู้รับเหมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และเน้นย้ำด้านความปลอดภัยสูงสุด
    
 มีรายงานข่าวจาก รฟม. ระบุว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.01 น. ของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผานมา โดยขบวนรถไฟฟ้าหมายเลข 10 กำลังเคลื่อนที่ออกจากสถานีลาดปลาเค้า (PK18) มุ่งหน้าไปสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ทางเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าได้ยินเสียงดังผิดปกติ ลักษณะคล้ายกับมีวัตถุกระแทกกับตัวรถหลายครั้ง จึงได้ทำการกดปุ่มควบคุมเพื่อหยุดรถฉุกเฉินทันที และแจ้งเหตุให้ห้องศูนย์ควบคุม (CCR) รับทราบเหตุการณ์ จากการตรวจสอบพบว่าประตูรถไฟฟ้าได้หนีบกระเป๋าผู้โดยสารติดอยู่กับประตูด้านนอกขบวนรถบริเวณตู้โดยสารสุดท้ายที่ยังคงอยู่ในเขตชานชาลา จากนั้นห้องศูนย์ควบคุมจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าทำการเปิดประตูบานที่หนีบกระเป๋า โดยการใช้กุญแจประจำขบวนรถไขเพื่อเปิดประตู แต่ไม่สามารถทำการไขเพื่อเปิดประตูบานดังกล่าวได้ ห้องศูนย์ควบคุมจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้ายกเลิกระบบควบคุมรถอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ประจำรถไฟฟ้าเข้าทำการควบคุมรถด้วยตนเอง แต่ด้วยการสื่อสารที่เข้าใจคลาดเคลื่อนกับห้องศูนย์ควบคุม จึงได้ทำการเปิดประตูรถไฟฟ้าฝั่งชานชาลาที่กระเป๋าติดอยู่ และสร้างความไม่ปลอดภัยต่อผู้โดยสาร