วันที่ 7 ก.ค.67 พระธรรมวชิราธิบดี เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2567 เพื่อถวายพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) พร้อมด้วย นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ผู้บริหารบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ครอบครัวและญาติของผู้บรรพชาอุปสมบท และประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมพิธี ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
นายวราวุธ กล่าวว่า พิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ภายใต้ "โครงการพระธรรมจาริก" เกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (กรมประชาสงเคราะห์ เดิม) กับมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ชนถิ่นกันดาร ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ด้วยการน้อมนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาที่มุ่งพัฒนาทางคุณภาพชีวิตทุกมิติให้กับราษฎรบนพื้นที่สูง รวมถึงเป็นการสร้างจิตสำนึกในความเป็นไทย และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สู่การเป็น “นักพัฒนา” นำพาความผาสุกสู่ชุมชนบนพื้นที่สูงอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งที่ผ่านมา โครงการพระธรรมจาริก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในการถวายปัจจัย เครื่องอุปโภคบริโภค และสนับสนุนการพัฒนางานพระธรรมจาริกมาโดยตลอด
นายวราวุธ กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 หรือเกือบตลอด 6 ทศวรรษที่ผ่านมา มีราษฎรบนพื้นที่สูงซึ่งเป็นผู้ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาในการสืบสานพระพุทธศาสนา เข้าร่วมบรรพชาอุปสมบททั้งสิ้น 12,906 รูป โดยในปีนี้ นับเป็นปีที่ 59 มีผู้ขอบรรพชาอุปสมบททั้งสิ้น 191 รูป แบ่งออกเป็นบรรพชา (สามเณร) 85 รูป อุปสมบท (พระนวกะ) 106 รูป ซึ่งหลังจากที่บรรพชาอุปสมบทแล้ว จะเข้ารับการศึกษาพระธรรมวินัย และวิชาการต่าง ๆ ทั้งสายปริยัติธรรมและสายสามัญ เมื่อจบการศึกษาแล้ว หากอยู่ในสมณเพศจะออกปฏิบัติงานเผยแพร่พระพุทธศาสนาร่วมกับพระธรรมจาริก ส่วนผู้ที่ลาสิกขาบทจะได้นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และทำประโยชน์ให้แก่ครอบครัวและชุมชนต่อไป
นายวราวุธ กล่าวว่า ในปี 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ดำเนินการสร้างศาลาปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 ณ ที่พักสงฆ์พระธรรมจาริกปางแก อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เพื่อถวายพระธรรมจาริก ได้มีสถานที่ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูง กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่และใกล้เคียง และยังเป็นที่พึ่งทางใจ เป็นศูนย์กลางของชุมชน อีกทั้ง พิธีบรรพชาอุปสมบทราษฎรบนพื้นที่สูง ประจำปี 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานผ้าไตร ถวายพระอุปัชฌาย์ 1 ไตร และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้คณะกรรมการวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม จัดผ้าไตรพระราชทาน 176 ไตร ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง พม. ขออนุโมทนาทุกท่านที่ร่วมเป็นเจ้าภาพและร่วมเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ราษฎรบนพื้นที่สูงของคณะพระธรรมจาริก อันจะทำให้ราษฎรบนพื้นที่สูงได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องราษฎรบนพื้นที่สูง ที่เข้ารับการบรรพชาอุปสมบทครั้งนี้ จะได้รับการศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา การหล่อหลอมขัดเกลาจิตใจ สามารถดำรงตนอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และสานต่อพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว ตลอดจนนำพาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติต่อไป