เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ก.ค. 67 ที่จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดและปัญหาดินสไลด์ จากเหตุการณ์น้ำท่วมหลังฝนตกอย่างหนักเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะ
นายกฯ รับฟังความคิดเห็นของภาคประชาชนในการขุดอุโมงค์ทางลอด บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร อำเภอถลาง ซึ่งมีปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนัก โดยเฉพาะช่วงเวลา 16.00 - 19.00 น. ทั้งนี้ก่อนจะเริ่มการก่อสร้างสร้างอุโมงค์จะมีการทดลองแก้ปัญหาจราจร เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด
ด้านนายเฉลิมพล เถิดทรัพย์ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ก่อสร้าง กล่าวว่า ชาวบ้านยินดีเรื่องการสร้างอุโมงค์แต่กังวลเรื่องของฝนตกแล้วน้ำจะท่วมขังภายในอุโมงค์ จึงอยากให้การก่อสร้างคำนึงถึงเรื่องนี้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งจากปัญหาจราจรและซ้ำเติมด้วยปัญหาน้ำท่วมจึงอยากให้มีการทำคลองระบายน้ำควบคู่ไปด้วย เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่น้ำไหลผ่าน หากมีทางระบายน้ำจะทำให้ชาวบ้านอยู่อย่างเป็นสุขมาก เพราะทุกครั้งมีฝนตกหนักชาวบ้านก็จะเจอกับปัญหาน้ำท่วมขังทุกครั้ง
ขณะที่นายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาเพิ่มเติมถึงการทำบายพาส หรือเส้นทางระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากที่สุด ทำให้ชาวบ้านที่ได้ฟังถึงกับร้องไห้ดีใจที่นายกฯ มารับฟังปัญหาและจะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน
จากนั้นนายกฯ เปิดเผยว่า มาติดตามสถานการณ์รถติด และน้ำท่วมในอ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะแยกอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีย์ ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณโครงการขุดเจาะอุโมงค์ เพื่อแก้ไขสถานการณ์รถติดในจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมอธิบายถึงสภาพปัญหาว่า ถนนเส้นนี้มีระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร แต่มีสัญญาณไฟจราจร 7 จุด วงเวียน 1 จุด จุดกลับรถ 12 จุด ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้ช้า ระหว่างรอการก่อสร้างอุโมงค์จึงมีมาตรการในระยะสั้นในการปิดกั้นบางช่วง เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนตัวได้เร็วขึ้น ตลอดจนขยายทางเลียบเมือง เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของรถ ซึ่งโครงการน่าจะแล้วเสร็จในปี 2569
“ นอกจากนี้ ต้องคำนึงถึงปัญหาน้ำท่วมในอุโมงค์ เพราะเป็นทางผ่านของน้ำ จึงให้ทางจังหวัดเตรียมแผนรองรับ เช่น ปั๊มน้ำ และช่องทางระบายน้ำ ที่ไม่กระทบต่อชุมชนโดยรอบ เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับผลกระทบถึง 200 หลังคาเรือน ผมเชื่อว่า ปัญหาการจราจรในตัวเมืองภูเก็ต และน้ำท่วม น่าจะคลี่คลายลงไปได้มากจากมาตรการทั้งระยะสั้น และระยะยาว” นายกฯ กล่าว