วันที่ 5 ก.ค.67 เวลา 11.30 น.ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วย นายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือ ทนายเจส พานายอาทิตย์ อายุ 24 ปี และ น.ส.ชนัญญา สองสามีภรรยา เข้าพบ พงส.กก.5 บก.ป.ร้องขอความช่วยเหลือคุ้มครอง กรณีถูกนายดำรงค์  เจ้าหน้าที่ชลประทานระดับหัวหน้า จ.สุพรรณบุรี พยายามฆ่าด้วยการใช้อาวุธปืนจี้จ่อหัวถึงสามครั้งก่อนแย่งปืนได้กลับเอามีดมาไล่แทงอีกแต่พลาด จนมีตำรวจมาช่วยจับส่งตำรวจท้องที่เกิดเหตุก่อนคดีพลิกจากพยายามฆ่า เป็นข่มขู่ ตอนนี้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว จึงเกิดความกลัวต้องมาร้องกองปราบฯ ช่วยเรื่องความปลอดภัยเพราะคู่กรณีเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

โดย นายอาทิตย์ และ น.ส.ชนัญญา เปิดเผยว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 11 โมงเช้า ตนกับภรรยาขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพักในพื้นที่ ม.4 ต.วังลึก อ.สามชุก สุพรรณบุรี มาตามถนนก่อนจะออกจากซอยสู่ถนนใหญ่ พบรถปิคอัพอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีทอง ผก 9613 สุพรรณบุรี ไม่ทราบใครเป็นเจ้าของจอดขวางทางอยู่ จึงให้ภรรยาลงไปดูและขอให้ช่วยเลื่อนรถเปิดทางให้ แต่เจ้าของรถไม่ยอมถอยเลื่อนรถให้ ทำให้ต้องขับรถเบี่ยงเลี่ยงออกไปเอง ก่อนจะแวะร้านค้าเพื่อแลกเงิน
ต่อมาคนขับรถปิคอัพคันดังกล่าวขับตามมาที่ร้านค้าดังกล่าวจอดรถประกบรถยนต์ตน ซึ่งมีนายดำรงค์ ที่ทราบชื่อภายหลังลงมาจากรถปิคอัพพร้อมถืออาวุธปืนพกสั้นมาจ่อศีรษะตนแล้วเอาลง ก่อนจะยกขึ้นจ่ออีกทำอยู่ 3 ครั้ง โดยไม่พูดอะไร จากการสังเกตได้กลิ่นสุราจากลมหายใจนายดำรงค์

จนเมื่อสบโอกาสตนฉวยจังหวะแย่งและคว้าปืนมาได้ จากนั้นนายดำรงค์ได้หยิบมีดปลายแหลม 2 เล่มออกมาจ้วฃแทงบริเวณไหล่ตนแต่พลาด ก่อนจะพูดทวงปืนคืน ตนบอกให้รอตำรวจมาก่อน เสร็จแล้วตนก็เดินไปเข้าบ้านคนรู้จักที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุรีบปิดผระตูลงกลอนไม่ให้นายดำรงค์ตามเข้ามาได้ รอจนมีตำรวจมาช่วยและเก็บอาวุธปืนไป พร้อมควบคุมตัวนายดำรงค์ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามชุก 

 

หลังจากนั้นตนขับรถตามไปที่โรงพักเพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา 2 ข้อหา 1.คดีพยายามฆ่า 2.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะและเขตชุมชน โดยตำรวจให้ตนมาหาหลักฐาน (กล้องวงจรปิด-พยานบุคคล) ตนจึงได้ติดต่อประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยเพื่อขอหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แต่ทางผู้ใหญ่บ้านไม่ช่วยในการดำเนินเรื่องคดีจากกล้องวงจรปิด ตนจึงตามหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านเพื่อรวบรวมหลักฐานด้วยตัวเองก่อนมอบให้ตำรวจ

ต่อมา 20 มิ.ย.ตำรวจแจ้งว่าส่งตัวผู้ต้องหาไปศาล แล้วจึงตามไปคัดค้านให้ประกันตัว และมีผู้ใหญ่บ้านโทร.มาขอไกล่เกลี่ย

ซึ่ง สองผัวเมียยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุถูกปืนจ่อหัวครั้งนี้ เคยมีเหตุการณ์รถปิดอัพคันเดียวกันนี้ขับโผล่ออกมาจากซอย เป็นจังหวะเดียวกับที่ตนขับรถทางตรงถนนชลประทาน ทำให้ต้องบีบแตรเตือน ก่อนปิดอัพจะขับไล่ตามมาเกือบเบียด จยย.อีกคันตกถนน สามีได้กระทำการ และพูดจาไม่ดีออกไป จึงเชื่อว่าเขาน่าจะแค้นมาจอดรถดักรอหน้าปากซอยในครั้งนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้ร้องและประสาน สภ.สามชุก ท้องที่เกิดเหตุให้ทำคดีโปร่งใส ยุติธรรมทั้งสองฝ่าย และให้ความคุ้มครองผู้ร้องเนื่องจากเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย