วันที่ 5 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า กองทัพบกเปิดเผยถึงข้อมูลในช่วงปลายเดือน พ.ค. 67 โดยมี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้ประสานมาทาง กองทัพบกแจ้งว่า ทาง เอกอัครราชทูตชาวโมร็อกโก ประจำกรุงเทพมหานคร ได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือให้กับชาวชาวโมร็อกโก ที่ติดอยู่กับทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวนมากว่า 150 คน แต่ที่มีการยืนยัน คือ จำนวน 21 คน ที่บริเวณบ่อนคาสิโน บริเวณช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก  


 
ซึ่งทางกองทัพบก ได้รับเรื่องดังกล่าวพร้อมสอบถามไปทาง มูลนิธิต่างๆ และ NGOs จนกระทั่งได้ช่องทางติดต่อกับผู้เสียหายที่อยู่ภายในบ่อนคาสิโน พร้อมได้ประสานงานและสอบถามกับทางผู้เสียหายถึงรายละเอียดสถานที่ และที่พักอาศัยว่าอยู่บริเวณใดของอาคาร เมื่อทราบรายละเอียดทั้งหมด จึงได้นำข้อมูลไป พูดคุยกับทางกองกำลัง DKBA โดยมี พ.อ.ซาอ่อง ผู้บังคับการ กองบังคับการ ยุทธวิธี (ผบ.บก.ยว.) และ พล.จ.ส่วยวะ ผบ.พล.น.3 กกล.DKBA ให้ช่วยเข้าไปเจรจากับทาง เจ้าของคาสิโนดังกล่าว

โดยจากการเจรจาทราบว่ามีชาวโมร็อกโก ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศเดียวกันหลอกให้มาทำงานมีจำนวน 21 คน ซึ่งระหว่างการเจรจานั้นได้มี ครอบครัวของชาวโมร็อกโกนำเงินมาไถ่ตัว ออกไปแล้วจำนวน 7 คน จึงได้รับการปล่อยตัวออกไปก่อน และมีอีก 2 คนต้องการที่จะไม่กลับออกมา เลยมีคนที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา จำนวน 12 คน ทั้งหมดคาดว่าน่าจะเดินทางมาถึงฝั่งไทยในเวลา 10.00 น. วันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร จากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูน กองกำลังเรศวร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมารับ 

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่าตนได้รับการประสานงานจากสถานทูต เพื่อช่วยเหลือชาวโมร็อกโก 21 คน ที่ถูกควบคุมตัว โดยกลุ่มสแกมเมอร์ ที่อยู่ทางฝั่งเมียวดี เป็นธุรกิจที่หลอกลวงคนทั่วโลก ซึ่งบังคับทั้งคนไทยและคนต่างชาติไปทำงานในวงจรสแกมเมอร์ ตามจุดต่างๆที่เมียวดี  โดยหลังจากที่ตนได้ทราบข้อมูล หมายเลขพาสปอร์ต จึงได้ประสานงานไปที่กองทัพบก เพื่อขอให้ให้ความช่วยเหลือกลับชาวโมร็อกโก ดังกล่าว และต้องขอขอบคุณกองทัพบก ที่ได้มีการพูดคุยกับเหยื่อต่างๆ สุดท้ายนำไปสู่การเจรจากับกองกำลัง เพื่อเจรจาในการปล่อยตัวเหยื่อที่ถูกหลอกไป  จนสามารถช่วยชาวโมร็อกโก ได้ 12 คน โดยมี 6 คนก่อนหน้านี้ มีการจ่ายเงิน ให้กับบรรดาพวกนายจ้าง ให้ปล่อยตัวไปก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือ ก็ตัดสินใจไม่เดินทางและอยู่ที่เมียวดีต่อไป

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่านับเป็นข่าวดี ที่สามารถช่วยเหลือทั้ง 12 คน เรื่องนี้ตอกย้ำให้เห็น ว่าไทยเราควรจะต้องให้ความสำคัญเป็นวาระระดับชาติ ไม่เฉพาะแค่ชาวไทยหรือโมร็อกโก  แต่คนจำนวนมากทั่วโลกถูกหลอกไปอยู่ตรงนั้น และไม่ใช่เป็นแค่การค้ามนุษย์ แต่ยังรวมถึงการหลอกลวงนำทรัพย์สินและมีกิจกรรมที่ผิดกฎหมายจำนวนมากที่อยู่บริเวณนั้น