เมื่อวันที่ 4 ก.ค.67 พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ คณะ โดยมี นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระหรวงมหาดไทย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและนายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้ข้อมูลการดำเนินงาน
นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า โครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ, ขอกราบขอบพระคุณท่านราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กรมทรัพยากรน้ำบาดาลน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และเพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด จึงได้ดำเนินการโครงการ สำรวจศักยภาพน้ำบาดาลในพื้นที่หาน้ำยากโดยศึกษาอุทกธรณีวิทยาใต้ผิวดินด้วยวิธีทางธรณีฟิสิกส์ กำหนดขอบเขตพื้นที่ที่น่าสนใจดำเนินการเจาะสำรวจ วิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาล สูบทดสอบ, พบว่า พื้นที่บ้านโคกล่าม หมู่ 2 ตำบลโคกล่าม อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด มีความเหมาะสม , จึงต่อยอดโครงการพัฒนาให้เป็นโครงการน้ำบาดาลขนาดใหญ่สภาพปัญหาในพื้นที่เนื่องจากสภาพดินที่เป็นดินทราย ซึ่งมีคุณสมบัติน้ำไหลซึมผ่านอย่างรวดเร็ว เก็บกักน้ำไม่อยู่ ทำให้ในฤดูแล้งประสบปัญหาน้ำผิวดินแห้งขอด กอรปกับสภาพอากาศที่ร้อนเป็นตัวเร่งการระเหยของน้ำ ส่งผลให้พื้นที่นี้ในฤดูแล้งมีความวิกฤตเรื่องน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนทางเทศบาลแก้ไขปัญหาโดยการขอรับน้ำจากพื้นที่อื่น เพื่อมาบรรเทาความเดือดร้อน และต้องจ่ายเงินค่าบรรทุกน้ำ เพื่อมาแจกจ่ายหลายล้านบาทต่อปีผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สำรวจธรณีฟิสิกส์ 20 จุด เพื่อหาตำแหน่งที่มีรอยแตกในชั้นหินทราย เจาะบ่อสำรวจ 4 บ่อ พัฒนาน้ำบาดาลในชั้นหินทรายที่ความลึก 62 - 87 เมตร สูบทดสอบได้ปริมาณน้ำ 8- 14 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง นำไปสู่การออกแบบด้านวิศวกรรมที่คำนึงถึงศักยภาพของน้ำบาดาล ที่ตั้งโครงการ และความต้องการการใช้น้ำของประชาชน โดยมีองค์ประกอบดังนี้ พื้นที่บ้านโคกล่าม แห่งนี้ เป็นโครงการใบระยะที่ 3 ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลอยู่ระหว่างการขอจัดสรรงบประมาณดำเนินการ ซึ่งก่อนได้รับโครงการ ขาวบ้าน มีความเดือดร้อน ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาด สำหรับการอุปโภคบริโภคในหลายหมู่บ้าน น้ำมีสภาพเป็นหินปูน มีความกระด้างสูงและบางส่วนเป็นเกลือมีความเค็ม มีปริมาณน้ำผิวดินไม่เพียงพอ และมีปัญหาคุณภาพไม่ดี
โดยปัจจุบัน กรมฯ ได้ดำเนินการเจาะบ่อสำรวจไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 4 บ่อ ความลึกเฉลี่ย 100 เมตร และได้น้ำปริมาณมาก ประมาณ 10-15 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงต่อบ่อ ซึ่งในโครงการฯ ตั้งเป้หมายเจาะบ่อเพิ่มอีก 6 บ่อ รวมทั้งสิ้น 10 บ่อ ทำการสูบสลับ และจะมีการเจาะบ่อสังเกตการณ์อีก 2 บ่อ เพื่อเฝ้าระวังน้ำบาดาลให้มีความยั่งยืน ใช้ได้ตลอดไป ซึ่งน้ำจากบ่อบาตาลจะถูกสูบเข้าถังเก็บน้ำขนาด 150 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง และหอถังสูงรักษาแรงดัน ขนาด 300 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 1 ถัง พร้อมเดินท่ออีกไม่ต่ำกว่า 2.3 กิโลเมตร หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยชาวบ้านที่เดือดร้อนสำหรับในโครงการจำนวนไม่น้อยกว่า 14 หมู่บ้าน 635 ครัวเรือน ประชากร 2,540 คน หรือคิดเป็นปริมาณน้ำไม่น้อยกว่า 230,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เมื่อกรมฯ ดำเนินการเจาะบ่อบาดาลและก่อสร้างแล้วเสร็จ ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะดำเนินการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ ประกอบด้วยชาวบ้านทั้ง 14 หมู่ และผู้แทนกรมฯ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ ในลำดับต่อไป
หลังจากนั้นพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคณะ ได้สำรวจพื้นที่โครงการฯ พร้อมให้กำลังใจในการทำงานในการดูแลประชาชน ต่อไป