ตำรวจสืบสวน รวบผู้ต้องหาชิงทอง ยาย 74 ปี ไปขายซื้อยาเสพ ดิ้นไม่หลุดวงจรปิดจับภาพชัด สืบประวัติพบก่อคดีหลอกคนแก่ซื้อของ โอนเงินโชว์สลิปปลอม ไว้โชกโชน
วันที่ 4 กรกฏาคม 2567 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ภายใต้การอำนวยการ พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต รอง ผบก.จ.จันทบุรี / พ.ต.อ.เสกสรรค์ ศรีเพริศ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี / พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญยั่งยืน รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี / และ พ.ต.ต.สัญญา ก้อนเพชร สว.(สืบสวน) ควบคุมตัว นายเอกพร อายุ 30 ปี ชาว จ.สระแก้ว ผู้ต้องหา ในคดีชิงทรัพย์พร้อมของกลาง รถ จยย.ยามาฮ่า ทะเบียน 1 กง 2511 จันทบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามสถานที่
ก่อเหตุ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเช้ามืดของ วันที่ 1 ก.ค. 67 นายเอกพร ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุ ชิงทรัพย์ นางประภาพร อายุ 74 ปี เจ้าของร้านข้าวแกง ภายในซอยหลังแขวงการทาง ต.วัดใหม่ อ.เมืองจันทบุรี โดยการกระชากสร้อยข้อมือทองคำ หนัก 1 บาท มูลค่าประมาณ 4 หมื่นบาท ไปจากผู้เสียหาย ขณะกำลังเปิดร้าน โดยกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพขณะก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน
หลังเกิดเหตุต่อมา ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว ต่อมาชุดสืบสวนได้แกะรอยลักษณะคนร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด จนพบผู้ต้องสงสัยคือ นายเอกพร ผู้ต้องหา จึงติดตามไปจับตัวนำมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายเอกพร ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพกล้องวงจรปิดจริง โดยหลังก่อเหตุ ได้นำทองที่ชิงได้ไปขายให้ร้านในพื้นที่ ต.เกาะขวาง อ.เมืองจันทบุรี ก่อนจะนำเงินที่ได้มาไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และใช้จ่ายทั่วไป
นอกจากนี้จากการสืบประวัติย้อนหลังพบว่า ผู้ต้องหา ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และเคยตระเวนก่อเหตุหลอกโอนเงินโชว์สลิปปลอม ซื้อของตามร้านค้าในเขตตัวเมืองจันทบุรีมาแล้วหลายครั้ง โดยเลือกเป้าหมายเป็นร้านที่มีผู้สูงอายุดูแล ก่อนจะนำของที่ได้ ขี่รถหลบหนีไป จากนั้นจะนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ไปทำการเปลี่ยนสีใหม่ เพื่อให้ยากต่อการติดตาม
โดยหลังการสอบสวน ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด ในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือ จิตใจ
จากนั้นได้นำ นายเอกพร ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังสถานที่ก่อเหตุ ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป