จากกรณีที่ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับนายตำรวจ ยศ ส.ต.ต. อายุ 23 ปี (สามี) สังกัดอยู่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นรอยช้ำตามแขนขาและลำตัว อยู่เป็นประจำ

ล่าสุด วันที่ 4 ก.ค.67 ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เดินทางมายังสน.บางเขน จากนั้นได้ลงพื้นที่บ้านพักของฝ่ายชายซึ่งเป็นตำรวจย่านสุขาภิบาล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (3 กรกฎาคม 2567) ได้มีผู้หญิงหนีออกจากบ้านมา ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่โดนสามีซ้อม กระทืบจนน่วม มีรอยฟกช้ำตามตัว โดยช่วงเช้าสายของเมื่อวานนี้ทางตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก เคยกระทบผู้หญิงและหนักสุดคือเอาปืนตบหน้าและลากไปกระทืบหลังร้านส้มตำ ซึ่งสามีมีปัญหาเรื่องกัญชา น้ำกระท่อม วันนี้ผู้หญิงทนไม่ไหวแล้ว ได้พยายามหาทางช่วยสามี แต่สามีถามว่าจะทักไปหากันจอมพลังหรือไม่ โดยอ้างว่ารู้จักภรรยา กัน จอมพลัง เขาไม่ช่วยหรอก โดยเมื่อวานนี้ตนนั่งอยู่กับภรรยา ภรรยาบอกว่าไม่รู้จักชายคนดังกล่าว ตนจึงเดินทางมาที่สน.บางเขนเพื่อพาผู้หญิงมาแจ้งความและได้ไปตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว

นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ฝ่ายชายได้ดูไลฟ์สดของตนเอง คิดว่าจะกลับตัวได้ เพราะพ่อก็เป็นตำรวจ อยากให้คิดถึงพ่อแม่บ้าง ตนเองคิดว่าจะสำนึกได้ปรากฏว่าฝ่ายชายส่งแชทมาในไลฟ์สดว่า “เสียบเลย ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องใช้หนี้” เพราะภรรยาเปิดร้านกาแฟขายของไม่ดีขาดทุนและติดหนี้อยู่ ทั้งนี้เกิดปัญหาก่อนหน้านี้ผู้หญิงแจ้งความมาแล้ว 2 ครั้ง โดย 2 ครั้งแจ้งที่สน. บางขุนเทียน และสน.พระราชวัง และครั้งที่สามถูกบังคับให้มาถอนแจ้งความที่สน.บางเขน ทั้งนี้ขอชื่นชมตำรวจสน.บางขุนเทียนทางร้อยเวรใหม่ได้ติดต่อตนมาแล้วว่าอยากช่วย

“ผมตั้งคำถามกับตำรวจที่เป็นแบบนี้ เพราะตำรวจต้องเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จะปกป้องใครได้ เมื่อครอบครัวตัวเองยังปกป้องไม่ได้ เพราะประชาชนคาดหวังให้ตำรวจมีจริยธรรมมากกว่าคนทั่วไป และอย่าท้าทายเพราะผมไม่ชอบคนท้าทาย หรืออย่าเอาชื่อหรือภรรยาของผมไปอ้าง ยืนยันว่าทางภรรยาไม่รู้จักกับตำรวจนายนี้”นายกัณฐัศว์ กล่าว

โดย นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ตอนนี้มีการประสานงานกับหน่วยงานทั้งกองอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึงสน. บางเขน ให้เข้าไปนำตัวของฝ่ายชายออกมา ก่อนที่จะพูดคุยกัน เพราะความต้องการของภรรยาคือต้องการให้ตำรวจรายนี้ยอมเซ็นใบหย่า ทางผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าวบอกแล้วว่าหากไม่ดีก็ไม่เอาไว้ ทางผู้หญิงอยู่ไม่ไหวแล้วเพราะโดนตีที่บ้านก็ทราบ หลังจากนี้จะเข้าไปที่บ้าน โดยทางหัวหน้าของผู้ชายจะเชิญผู้ชายมาทำบันทึกข้อตกลงกัน ส่วนการดำเนินการทางวินัยและทางคดีก็จะดำเนินการไป

ด้านน.ส.เอ กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้มีข่าวออกไปทางสามีที่เป็นตำรวจก็ทักมาขอโทษแต่เธอไม่ได้สนใจและไม่ได้อ่านข้อความก่อนที่ทางสามีที่เป็นตำรวจจะส่งข้อความมาไม่หยุดตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ไม่ได้เปิดอ่าน เพราะมีแต่คำพูดเชิงลบ หลังได้รับการช่วยเหลือรู้สึกดีขึ้น แต่ตนเองยังเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง คืออยากพาลูกสาวมาอยู่ด้วยกัน เพราะเวลาฝ่ายชายมีปัญหา ก็จะพาลไปยังพ่อแม่ เวลาลูกเห็นเขาอารมณ์ร้ายก็จะนอนผวา เมื่อตนเองไม่อยู่หรือหนีออกจากบ้าน เขาก็มักจะไปพาลแม่จนแม่ทนไม่ไหวก็ต้องหนีออกมาเช่นเดียวกัน ส่วนจะช่วยลูกออกมาได้วันนี้เลยหรือไม่นั้นต้องขอคุยกับแม่เขาดูก่อน ปกติเวลาฝ่ายชายอยู่บ้านก็จะเสพกัญชา เล่นเกม   กินน้ำกระท่อม ไม่ค่อยไปทำงาน

ขณะนี้ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขน พร้อมด้วยนายกัณฐัศว์ และน.ส.เอ อยู่ระหว่างการลงพื้นที่บ้านพักย่านสุขาภิบาล