เปิดปฎิบัติการจัดการแรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ 7 จุด แย่งอาชีพคนไทยและพบหลบหนีเข้าเมือง 1 คน มีประชาชนร้องเรียนว่ามี บาเบอร์ชื่อดัง มาตัดผมอยู่ที่เกาะพะงันนั้น พบว่าไม่มี

    วันนี้ 4 ก.ค.67  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 บูรณาการร่วมกับ นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน ผกก สภ.เกาะพะงัน สว.ตม.เกาะพะงันได้รับการร้องเรียนจากผู้นำท้องถิ่นมีต่างด้าวลอบมาทำงาน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และได้ทำการจับกุม ผู้ต้องหาได้ 7 ราย ประกอบด้วย

1 นางเทย์ ละ สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 37 ปี เปิดร้านค้าขายข้าวราดแกง โดยร้านค้าดังกล่าวเป็นร้านข้าวแกง ตั้งอยู่ริมถนนบริเวณ ม.4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จึงแจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ค้าขาย)”

2.นางซา เมียะ สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 44 ปี เปิดร้านค้าขายของหน้าร้านชำ โดยร้านค้าดังกล่าวเป็นลักษณะห้องแถว ตั้งอยู่ริมถนนบริเวณ ม.4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ค้าขาย)”

3.นางสาวจันทร์แจ่มฟ้าอายุ 43 ปี สัญชาติ ไทย พร้อมแจ้งข้อหา“เป็นนายจ้างให้บุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิที่จะทำได้ (ค้าขาย)”

 

4. นางคิน เมียว เซต์  อายุ 40 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ทำอาชีพขับรถเร่ขายของ บริเวณริมถนนสาธารณะคลองท่าลำเจียก ม.3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎรธานี พร้อมแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (เร่ขาย"

5.นางตา ตา อัง สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 35 ปี พร้อมด้วยของกลางของกลางที่ 1. เงินสดจำนวน 1,260 บาท ของกลางที่ 2 กระป๋องใส่เงิน 1 ใบ ของกลางที่ 3 ชาผงยี่ห้อ Royal Myanmar Teamix เปิดร้านขายน้ำชาพม่า โดยร้านค้าดังกล่าวเป็นลักษณะห้องแถว ตั้งอยู่บริเวณ ม.5 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมแจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ค้าขาย)”

6.นางเอ เอ อังสัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 47 ปี พร้อมด้วยของกลาง ของกลางที่ 1. เงินสดจำนวน 2,300 บาท  ของกลางที่ 2 หมากพลู 4 ชุด เปิดร้านขายหมากพลู โดยร้านค้าดังกล่าวเป็นลักษณะห้องแถว ตั้งอยู่บริเวณ ม.5 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี

พร้อมแจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ (ค้าขาย)”

และ7.นายเวย์ ยาน โซ  อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมาร์ ได้ให้การยอมรับ ว่าตนไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง แต่อย่างใด เนื่องจากตนได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านชายแดน จ.ระนอง โดยมีค่าใช้จ่าย 18,000 บาท ซึ่งมีนายหน้าชาวพม่าไม่ทราบชื่อเป็นผู้ช่วยเหลือในการลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งตนได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะพะงัน เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว พร้อมแจ้งข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

   จึงได้นำตัวทั้ง 7 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน เพื่อดำเนินการตาม กฎหมายต่อไป

    นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน กล่าวว่ามีประชาชนร้องเรียนว่ามี บาเบอร์ชื่อดัง มาตัดผมอยู่ที่เกาะพะงันนั้น ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้สั่งการให้ ตร.ทท. ร่วมตรวจสอบ กับฝ่ายปกครอง พบว่าไม่มีเป็นเพียงการเข้าใจผิด และตรวจสอบแล้วในพื้นที่เกาะพะงันไม่มี ช่างตัดผมดังที่เป็นข่าวในพื้นที่แน่นอน จึงขอให้ประชาชน คำนึงถึงภาพลักษการท่องเที่ยวก่อนจะเเชร์ข่าวอะไรออกไป

    สำหรับการจับกุ่มในครั้งนี้ ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 กวดขัน ควบคุมพฤติกรรมชาวต่างชาติและบุคคลต่างด้าว แรงงานข้ามชาติ แย่งอาชีพคนไทย และการกระทำความผิดในคดี 10 กลุ่มต้องห้าม ในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและเป็นการป้องปราบกลุ่มแรงงานหรือนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแล้วแฝงตัวทำงานในพื้นที่