วันที่ 3 ก.ค.67 บก.สส.บช.น. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล , สืบสวน น.5 และ สน.บางนา พร้อมด้วยกำลังพลกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง”ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายดนัย หรือออม อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.376/2567 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นความผิดฐานซ่องโจร , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร , ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน , ทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ , ชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ คอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง ซ.ด่านสำโรง 11 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

พร้อมกันนี้ได้นำหมายค้นศาลบุกทลายเซฟเฮ้าส์ “อิทธิพลมืดวัดด่านสำโรง” 5 จุด ดังนี้ 1.บ้านใน ม.4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลอาญาที่ ค.660/2567 ลงวันที่ 2 ก.ค. 67 / 2.บ้านใน ม.6 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลอาญาที่ ค.661/2567 ลงวันที่ 2 ก.ค. 67 / 3.บ้านใน ม.2 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลอาญาที่ ค.662/2567 ลงวันที่ 2 ก.ค. 67 / 4.ชั้น 7 คอนโดชื่อดังภายใน ซ.ด่านสำโรง 11 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลอาญาที่ ค.663/2567 ลงวันที่ 2 ก.ค. 67 / 5.บ้านใน ม.8 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตามหมายค้นศาลอาญาที่ ค.664/2567 ลงวันที่ 2 ก.ค. 67

ผลการตรวจค้นพบ 1.อาวุธปืน 38 กระบอก / 2.กระสุนปืนกว่า 800 นัด / 3.เงินสด 127,000 บาท / 4.สมุดบัญชีธนาคาร 16 เล่ม / 5.โฉนดที่ดิน 10 ฉบับ / 6.คู่มือจดทะเบียนรถ 15 เล่ม / 7.โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง / 8.รถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 6 คัน พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ / 9.ยุทธภัณฑ์ผิดกฎหมายจำนวนหลายรายการ

พฤติการณ์กล่าวคือ “อิทธิพลเถื่อน” จากเหตุอุกอาจเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 03.00 น. บริเวณสามแยกไฟแดงลาซาล-แบริ่ง (ตัดใหม่) แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพ เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ “ยกโขยง” ขับรถจักรยานยนต์ไล่ล่าก่อนจะยิงจอดและตั้งป้อม ยิงใส่รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ แม้จะเป็นระยะเกือบ 100 เมตร แต่คมกระสุนพุ่งเข้าศีรษะของ นายเจษฎา วิริยะ ที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ อย่างแม่นยำจนทำให้เสียชีวิต หลังสิ้นเสียงกระสุน ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ยังมีชีวิตอยู่พยายามก้มตัวและขับหลบหนีอย่างสุดชีวิต จนรถปีนข้ามเกาะกลางถนนขับสวนเลนไปอย่างทุลักทุเล แต่ขบวนรถจักรยานยนต์กลุ่มคนร้ายยังคงขับติดตามไล่ยิงอย่างเหี้ยมเกรียม

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 นำกำลังชุดสืบนครบาล , กก.สส.บก.น.5 และสืบสวน สน.บางนา ลงพื้นที่สืบสวนติดตามกลุ่มคนร้าย “เต็มสูบ” จนสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มหัวโจกในพื้นที่ละแวกซอย “วัดด่านสำโรง” ซึ่งเคยร่วมกันก่อคดีในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ อาทิเช่น ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ , ร่วมกันทำร้ายร่างกายฯ , ร่วมกันปล่อยเงินกู้ฯ , ร่วมกันบุกรุก โดยก่อเหตุลักษณะนี้มาไม่ต่ำกว่า 10 คดี ในห้วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเดิมกลุ่มคนร้ายมักจะก่อเหตุแต่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ แต่คราวนี้มาก่อเหตุเลยเขตแดน จ.สมุทรปราการเพียง 100 เมตร “จึงเป็นอำนาจการสืบสวนสอบสวนของนครบาล” ซึ่งการสืบสวนนั้น“รองนพศิลป์” เปิดเผยว่าการตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุทำให้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันไปก่อเหตุมีมากถึง 23 คน และยังพบเบาะแสว่ากลุ่มคนร้ายนี้เป็น “หัวเชื้อ” ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุของกลุ่มนักศึกษาช่างกลชื่อดังใจกลางกรุงในอีกหลายๆคดี และที่เห็นว่าต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด เกิดจากเหตุการณ์ระหว่างที่ “ผู้การจ๋อ” นำกำลังชุดสืบนครบาลลงพื้นไล่กล้องวงจรปิดจนถึงบริเวณภายใน ซ.แบริ่ง 48/9 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบชาวบ้านในละแวกต่างมีอาการหวาดผวาอย่างผิดปกติ กล่าวคือไม่กล้าให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพราะถูกทนายของกลุ่มคนร้ายมาข่มขู่ว่า “หากให้ตำรวจดูกล้องวงจรปิด จะยกพวกมาเผาบ้าน”และชาวบ้านยังแจ้งอีกว่าเหตุที่กลุ่มคนร้ายก่อเหตุซ้ำๆซากๆ แล้วยังสามารถลอยหน้าลอยตานี้ได้ เพราะมีทนายแสบเป็นผู้คอยตามล้างตามเช็ดเรื่องคดีนี้กับกลุ่มคนร้าย ทำกลุ่มคนร้ายย่ามใจกร่างได้สุดๆเช่นนี้

จนนำกำลังชุดสืบนครบาล พยัคฆ์ร่ายเทพนคร , กก.สส.บก.น.5 และ สน.บางนา กว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “โค่นอิทธิพลเถื่อนด่านสำโรง” นำหมายค้นศาลบุกทลาย “เซฟเฮ้าส์” แหล่งกบดาน 5 จุด ก่อนจะรวบตัวการสำคัญได้ ตรวจยึดอาวุธปืน 38 กระบอก กระสุนกว่า 800 นัด พร้อมยุทธภัณฑ์จำนวนมาก หลังการจับกุมล่าสุดขยายผลทราบว่า หัวหน้าของกลุ่มคนร้ายคือ นายเพชร และ นายไปป์ ซึ่งทั้งสองเป็นอดีตนักศึกษาช่างกลชื่อดังย่านบรรทัดทอง และยังพัวพัน “ธุรกิจสีเทา”