วันที่ 3 ก.ค.67 น.ส.นก อายุ 46 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุดรธานี ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อร้องทุกข์ขอให้ช่วยจับกุมนายประจักษ์ หรือจักร อายุ 40 ปี อดีตน้องเขยมาดำเนินคดี หลังเข้าไปใช้มีดฟันกล้องวงจรปิดที่ติดไว้หน้าบ้านจนพังจากนั้นขโมยตัวกล้องไปด้วย เหตุเพราะน้องเขยหลอนยา อ้างว่ากล้องวงจรปิดเป็นตาเทพคอยจับผิดและการกระทำของเขา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค.67 เวลา 00.49 น. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพากันผวา เพราะลูกเขยคนนี้หลอนยาหนัก เคยจะจับลูกสาววัย 12 ขวบ โยนเข้ากองไฟ อ้างว่าจะบูชายัญ ดีที่แม่เขาช่วยไว้ทัน หากยังเป็นแบบนี้กลัวว่าครั้งหน้า จะจับลูกสาวโยนกองไฟบูชายัญได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ฯ ช่วยเหลือ โดย ตร.ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ประสานตร.ชุดสืบสวนติดตามนายจักรอีกครั้ง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยผู้เสียหายได้พาดูจุดที่นายจักใช้มีดฟันกล้องวงจรปิดและเหลือแต่สายสัญญาณภาพ ส่วนตัวกล้องนั้นถูกขโมยไป นอกจากนี้ที่หน้าบ้านของน้องสาวยังพบร่องรอยเศษไม้ที่ถูกปลอกทิ้งไว้คาดว่าจะใช้ทำเป็นอาวุธ โดยเขาบอกว่า กล้องเป็นตาเทพคอยจับจ้องมอบเขา ต้องทำลายให้หมด ไม่ให้เหลือซาก ส่วนที่บ้านของ น.ส.จุ๋ม ซึ่งเป็นน้องสาวและเป็นอดีตภรรยานายจักร ก็พบว่ามีสภาพพังเสียหายหลายจุดทั้งกระจก เหล็กดัด ระแนง เครื่องใช้สอยต่างๆ พังไปหมด  ทั้งนี้ น.ส.นกได้พาไปดูห้องครัวและชี้จุดที่นายจักใช้มีดปาดสังกะสีเป็นช่องก่อนจะโรยตัวลงมาพังบ้าน และมันเคยจะเอาตัวลูกสาวไปเผาไฟและมันอ้างว่าจะเอาไปบูชายัญ

น.ส.นก อายุ 46 ปี  เล่าว่า เหตุการณ์เมื่อคืนนั้นไม่มีใครได้ยินเสียงเพราะทุกคนนอนหลับอยู่หลังบ้าน เช้าวันต่อมา ลูกสาวตื่นมาจะเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อเช็กดูกล้องแต่ไม่สามารถเปิดดูภาพได้ จึงบอกให้พ่อออกมาดูที่หน้าบ้านและพบว่าตัวกล้องวงจรปิดหายไป จากนั้นจึงเข้าไปเปิดดูย้อนหลังพบว่า อดีตน้องเขยชื่อนายจักรเป็นคนที่ใช้ฟันทำลายกล้องวงจรปิด นายจักรนั้นเป็นอดีตน้องเขย และได้หย่าเลิกลากับภรรยาคือน้องสาวตนไปได้จะปีหนึ่งแล้ว นิสัยของนายจักรหลังเลิกจากน้องสาวก็ชอบมีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามเข้ามาทำลายบ้านทำร้ายร่างกายน้องสาวจนน้องสาวตนหอบลูกหนีไปอยู่ที่อื่น

สาเหตุที่นายจักรมีอาการแบบนั้นก็เพราะติดยาเสพติด และแค้นที่เลิกกับน้องสาวตนจากนั้นก็จะชอบมาหาเรื่อง ส่วนตัวรู้สึกกลัวเพราะว่าบ้านหลังนี้ตนส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงอยู่ ตอนกลางวันเด็กๆเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้ ก็ไม่กล้าออกบ้านมาวิ่งเล่น ตอนนี้อยากให้ช่วยใช้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะคนแบบนี้อย่าปล่อยให้เดินในสังคม เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย และเบื้องต้นได้ แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานีแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปยังบ้านของนายจักร ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน กลับพบว่าบ้านถูกปิดเงียบส่วนนายจักรไม่รู้ว่าไปไหน แต่ผู้สื่อข่าวได้พบกับแม่นายจักร ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กัน โดยนางเปลี่ยน อายุ 63 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนมีลูก 2 คน นายจักรนั้นเป็นคนเล็ก มีครอบครัวมีลูก 2 คน กับภรรยาเก่า โดยลูกทั้ง 2 คนเป็นคนดูแล จากนั้นก็ไม่ได้ภรรยาใหม่และย้ายไปอยู่กับภรรยาจนมีลูกด้วยกันอีก 1 คน มีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง นายจักร นั้นเป็นคนชอบดื่มสุราจนกระทั่งติดสุราจนเมียและตนเคยพาไปรักษาจนเลิกสุราได้แต่ก็หันมาเสพยาเสพติด ตอนที่ลูกชายอยู่กับภรรยาคนล่าสุดทั้งคู่ก็ดีแต่ก็มีก็มีทะเลาะกันบ้าง หลังๆเริ่มเสพยาหนักก็เริ่มทะเลาะกันทุบของพังบ้าน เป็นแบบนี้บ่อยจนเมียทนไม่ไหวขอแยกทาง จากนั้นนายจักรลูกชายก็จะไปหาเรื่องที่บ้านภรรยาเก่าอยู่เป็นประจำ ส่วนตัวแม่เรื่องนี้ตนก็ไม่ได้โทษใคร แต่ก็อยากให้พาลูกชายไปบำบัดรักษาให้หายจากการติดยาเสพติด

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอพูดคุยกับ นางจุ๋ม อายุ 37 ปี กับน้องโดนัด อายุ 12 ปี ลูกสาวนางจุ๋ม และนายจักร ที่บ้านหลังหนึ่งเพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวว่า เรื่องราวเป็นเพราอะไร โดยนางจุ๋ม เล่าให้นักข่าวฟังว่า ตนเคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานีมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 เป็นพี่สาวไปแจ้งความ โดยทุกครั้งที่ต้องไปแจ้งความนั้นจะแจ้ง ในข้อกล่าวหาทำลายข้าวของ ขู่ฆ่า และทำร้ายร่างกาย หลังไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ดำเนินการไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ทั้งนี้อดีตสามีก็เคยพูดว่า ตำรวจอุดรไม่มีปัญญาทำอะไร ต่อให้จับไปแค่ได้ 2 วันแล้วก็ปล่อยออกมา ตอนนี้ใช้ชีวิต กลัวและใช้ลำบากมาก ไหนจะลูกสาวที่ต้องไปเรียนส่วนตนจะต้องทำงานกลับบ้านดึกไม่รู้เพราะอดีตสามีจะเข้ามาก่อกวนที่บ้านตอนไหน

ย้อนกลับไปตอนที่อดีตสามีมาจะมาขอเงินค่าจ่ายหย่า 200,000 บาท หากไม่ได้จะพังของ และขู่ฆ่า ที่ส่วนสาเหตุที่เราเลิกกันเพราะเขาติดเสพยาเสพติด โดยก่อนที่จะเลิกกันก็เคยบอกให้เขาเลิกยาแต่เขาก็บอกว่าไม่เลิกขนาดพ่อกับแม่ ยังไม่บอกให้เลิกเลย วีรกรรมที่สะเทือนใจที่สุดก็คือ อดีตสามีหลอนยาหนักมาก เคยจะอุ้มลูกโยนเข้ากองไฟที่เขาก่อไว้เมื่อปลายเดือนก.พ.67 ที่ผ่านมา โดยร้องตะโกนดังๆ ว่าจะเอาลูกเข้ากองไฟบูชายัญ ดีที่ตนเองช่วยไว้ทัน ไม่งั้นลูกสาวถูกอดีตผัวหลอนยาจับใส่กองไฟแน่นอน ตอนนี้เราห่วงว่าอดีตสามีจะมาจับลูกสาวไปบูชาอีก อยากให้เจ้าหน้าที่ฯช่วยดำเนินการ จัดการดำเนินการกฎหมายให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตามหากยังไม่ได้แก้ไขโดยเร็วตนก็ได้นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนมูลนิธิปวีณา และคุณกันจอมพลังให้ช่วยเหลือต่อไป

ส่วนน้องโดนัด  ลูกสาวที่รอดจากพ่อจะโยนเข้ากองไฟบูชายัญ บอกว่า วันนั้นหนูกำลังนอนหลับในห้อง พ่อได้เข้าไปในห้องอุ้มหนูออกมา ตอนนั้นตนก็ขัดขืนดิ้นสุดฤทธิ์ โชคดีที่แม่เข้ามาช่วยเหลือไว้ก่อน ตอนนี้ตนก็ยังกลัวพ่อมากกลัวว่าพ่อจะกลับมาอุ้มและพาตัวเองไปเผาในกองไฟอีก