วันที่ 2 ก.ค.67 นาย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มร่วมสู้ Zipmex เปิดเผยว่า วันนี้ตนและกลุ่มร่วมสู้ Zipmex ได้เดินทางมาร่วมให้กำลังใจและรับฟังคำพิพากษาครั้งแรก หลังจากที่ได้มี นายประมุข ศิริอังกุล ผู้เสียหายรายแรก เป็นผู้ยื่นฟ้องต่อศาล เมื่อปี 2565 เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ บริษัทดังกล่าว รวมถึงตัวนายเอกลาภฯ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งผลคำพิพากษาวันนี้เป็นผลจากการยื่นฟ้องเมื่อ 2 ปีที่แล้ว คือ ศาลยกฟ้องเนื่องจากมองว่ายังมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ในความผิดฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ยักยอกหรือทุจริตในฐานะผู้ดูแลทรัพย์สิน แต่ไม่ได้หมายความว่าจำเลยไม่ผิด เพราะขณะนั้นยอมรับว่าหลักฐานที่ยื่นฟ้องไปมีน้อยมาก แต่หลังจากนี้กลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดที่ล่าสุดสามารถรวมตัวกันได้เกือบ 500 คน จะร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงข้อมูลซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ได้เพิ่มเติมเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ชี้ให้เห็นว่าบริษัทมีความผิดจริงและจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในขั้นตอนต่อไป ซึ่งมีเป้าหมายจะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางแพ่งและอาญา 

นอกจากนี้เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2565 กลุ่มผู้เสียหายได้นำข้อมูลเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไปยื่นต่อ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมากถึง 1,400 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของดีเอสไอ 

ด้านนายกิจจา จงขวัญยืน ตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มร่วมสู้ Zipmex  บอกเพิ่มเติมว่ากลุ่มพวกตนหลังฟังคำพิพากษาวันนี้ไม่ได้มีความหมดกำลังใจแต่ทำให้ให้ได้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่จะจะต้องไปเพิ่มเติมในส่วนพยานหลักฐานว่าจะต้องนำส่วนใดมาประกอบเพิ่มมากขึ้นซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานมาอุทธรณ์ได้ทั้งหมด พร้อมฝากไปยัง ภาครัฐ / สำนักงานคณะกรรมกาคกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามามาช่วยคุ้มครองกลุ่มผู้เสียหาย เนื่องจาก Zipmex ได้รับการรับรองโดยถูกกฎหมายและพวกตนก็ลงทุนเพราะเกิดจากความเชื่อถือ แต่ต้องได้รับผลกระทบมีผู้ได้รับความเสียหายสูญเสียทรัพย์และชื่อเสียงเป็นจำนวนมากจากเรื่องดังกล่าว

ในส่วนของ Zipmex เคยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ได้กระทำการที่ก่อความเสียหายต่อนักลงทุน ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พบการกระทำความผิดหลายกรณีและได้กล่าวโทษจำเลยไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอาญา อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของ Zipmex ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2567