สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มีภารกิจในการจัดสรรที่ดินให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ สนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัย และส่งเสริมการทำเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพที่สามารถดูแลตนเอง ครอบครัว รวมไปถึงการพัฒนาอย่างรอบด้านเพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ อยู่ดี มีความสุข บนแผ่นดินทองคำในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุทัยธานี (ส.ป.ก.อุทัยธานี) ได้มีการปฏิรูปที่ดินและจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไร้ที่ดินทำกิน
นางศิริพร อภิเดช ปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า พื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี มีแนวเขตที่ดินที่บางพื้นที่มีการทับซ้อนกันของป่า อาทิ พื้นที่ทุ่งแฝก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอลานสัก ซึ่งเดิมมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาส.ป.ก.อุทัยธานีได้ดำเนินการจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรได้มีที่อยู่อาศัยและทำการเกษตรเพื่อเป็นอาชีพหล่อเลี้ยงครอบครัว โดย ณ ขณะนั้นรัฐบาลได้มีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของภาครัฐ อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรที่รุกล้ำเขตพื้นที่ป่าสงวน โดยจัดตั้งเป็นโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) สำหรับพื้นที่ที่นำมาจัดสรรให้แก่เกษตรกรนั้น เป็นที่ดินแปลงว่าง เนื้อที่ 3,239-2-39 ไร่ ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เคยขอใช้ประโยชน์และหมดอายุสัญญาเช่าจาก ส.ป.ก. ซึ่ง ส.ป.ก.นำมาดำเนินการจัดที่ดินในลักษณะแปลงรวม และให้บริหารจัดการที่ดินในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรตามเงื่อนไขของ ส.ป.ก.
นายสมบัติ แป้นกลัด เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดอุทัยธานี (อดีตเกษตรกรที่อพยพจากทุ่งแฝก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง) กล่าวว่า ตนได้อพยพครอบครัวมาจากทุ่งแฝก ปี พ.ศ.2564 เนื่องจากพื้นที่ประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทางด้าน ส.ป.ก.อุทัยธานี เข้ามาให้ความรู้ความเข้าใจ และดำเนินการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรที่อพยพให้ย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี จัดสรรให้คนละ 5 ไร่ นำมาสร้างที่อยู่อาศัยและปลูกพืชผักผสมผสาน เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว พริก แตงโม มะเขือ ซึ่งทั้งหมดเป็นพืชอายุสั้นที่สามารถปลูกแบบหมุนเวียนและเก็บไปจำหน่ายได้ทุกสัปดาห์
ทั้งนี้ การพัฒนาอาชีพให้เกษตรกรในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินสามารถ อยู่ดี มีสุข และมีรายได้อย่างยั่งยืน เป็นความท้าทายสำคัญในการดำเนินงานของ ส.ป.ก. และเพื่อผลสัมฤทธิ์ของเป้าหมาย ส.ป.ก. ได้ยึดถือแนวทางการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเป็นเอกภาพเช่นที่ผ่านมา พร้อมขับเคลื่อนงานตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลต่อไป