จากกรณีตัวแทนกลุ่มร่วมสู้ Zipmex ประกอบด้วยนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล กว่า 400 ราย มูลค่าความเสียหาย รวม 1,400 ล้านบาท รอรับฟังคำพิพากษาคดีฟ้อง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) และ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นจำเลยในคดีอาญาฐานร่วมกันยักยอกฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ สืบเนื่องจากกรณีปัญหาการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลท  กับ Zipmex ส่งกระทบต่อลูกค้าผู้ลงทุนหลายหมื่นราย เสียหายรวมกันหลายพันล้าน  

   

วันที่ 2 ก.ค.67 เวลา 08.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มตัวแทนผู้เสียหาย จากการร่วมลงทุนเทรดหุ้นกับบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาในคดีที่มีการยื่นฟ้องต่อศาล   ซึ่ง Zipmex เคยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ได้กระทำการที่ก่อความเสียหายต่อนักลงทุน ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พบการกระทำความผิดหลายกรณีและได้กล่าวโทษจำเลยไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอาญา อีกทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของ Zipmex ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2567  

ด้านนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากกลุ่มผู้เสียหาย Zipmex เปิดเผยว่า ตนรู้สึกแปลกใจที่คดีดังกล่าวมีมูลค่าความเสียหายหลายพันล้าน หรือมีกลุ่มผู้เสียหายคาดว่านับหมื่นคน แต่ภาครัฐ และ สำนักงานคณะกรรมกาคกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) กลับนิ่งเฉย ไม่ดำเนินคดี ทำให้ผู้เสียหายเคว้งคว้าง ทั้งที่ดารลงทุนดังกล่าวไม่ใช่การลงทุนที่เสี่ยงหรือผิดกฎหมาย และได้รับการรับรอง ตรวจสอบจาก กลต. และรัฐบาลควรที่จะเข้ามากำกับดูแลคุ้มครอง ตนจึงเข้ามาช่วยในการประสานภาครัฐ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ช่วยในการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ จนกระทั่งวันนี้จะมีคำพิพากษา ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ตั้งแต่คดีนี้เกิดเหตุในช่วงปี 2564-2565 ขณะที่ก่อนหน้านี้มีคำพิพากษามาแล้ว 2-3 คดี ซึ่งเป็นเชิงยกฟ้องผู้เสียหาย ว่ายอมรับในการใช้บริการของแอปพลิเคชั่นนี้ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีข้อเท็จจริงจากการสืบสวนออกมาเพิ่มเติมแล้วว่า บริษัท Zipmex ไม่ได้สุจริต แอบกระทำการผิดกฎหมาย และหลอกลวงให้ผู้เสียหายทำการยอมรับ จึงหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งนำความเป็นธรรมมาคืนให้กับผู้เสียหายทั้งหมด

ส่วนความคาดหวังในคำพิพากษาวันนี้ ทนายวีรพัฒน์ บอกอีกว่า ไม่ว่าวันนี้ผลการตัดสินจะเป็นอย่างไร ผู้เสียหายก็พร้อมจะเดินหน้าดำเนินคดีต่อ เพราะเข้าใจว่าศาลเองได้รับข้อมูลมาบางส่วน แต่หลักฐานที่ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า Zipmex มีความผิดจริง เะิ่งมาเปิดเผยในปี 2567 ซึ่งหากผลคำตัดสินไม่เป็นไปตามที่คสดหวัง ก็จะนำข้อมูลส่วนนี้ไปดำเนินการฟ้องร้องต่อเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม พร้อมฝากไปยัง นายเอกลาภฯ จำเลยในคดี ว่าหากมีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา ก็ให้มาเจรจาหารือร่วมกัน เพื่อรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย เหมือนที่ความแสดงคงามน่าเชื่อถือ ดึงดูดให้ผู้เสียหายเข้าไปใช้บริการ Zipmex 

ด้านผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ฟ้องร้อง ระบุว่า พวกตนเป็นกลุ่มนำร่องผู้เสียหายทั้งหมดที่มีการรวมตัวแล้วเกือบจะครบ 500 คน ที่มาดำเนินคดีกับบริษัท Zipmex พร้อมคาดหวังว่าสังคมรับทราบว่ายังมีพวกตนที่เป็นกลุ่มผู้เสียหาย ที่ยังรอให้ภาครัฐ และ กลต. เข้ามาช่วยเหลือคุ้มครองในการดำเนินคดีดังกล่าวให้เหมือนกับคดีอื่นๆในลักษณะคล้ายกันที่มีความคืบหน้าไปมากแล้ว  ส่วนนายเอกลาภฯที่เคยบอกว่าจะดูแลนักลงทุนทุกคน แต่เมื่อเกิดเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีการติดต่อหรืออัฟเดทข่าวสารให้กลุ่มนักลลทุนรู้ จึงอยากให้มาออกมารับผิดชอบในเรื่องนี้

ขณะที่คำพิพากษาในคดีดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างศาลรออ่านคำพิพากษา ในเวลา 10.00 น. และจะลงมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในเวลา 10.30 น.