วันที่ 2 ก.ค.2567 ที่จ.นครราชสีมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีคดีติดค้างของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หรือ นายก อบจ.ปทุมธานี ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบ ประทับรับฟ้องคดีการทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพช่วยน้ำท่วม เมื่อปี 2554 และมีคำสั่งให้ยุติปฏิบัติหน้าที่แล้วว่า หากนายชาญ เข้าปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.เมื่อใด ก็ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่เมื่อนั้น แต่หากนายชาญ ต้องการจะโต้แย้งคำสั่ง ก็ต้องไปดำเนินการกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ สถ. ที่มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลการเข้าสู่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีอำนาจ ออกคำสั่งดำเนินการต่อไป

เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวอีกว่า สาเหตุกรณีการยุติการปฏิบัติหน้าที่ทุกกรณีว่า เนื่องจาก กรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูล และศาลฯ มีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ซึ่งในระหว่างนั้นหากพ้นตำแหน่ง และได้รับการเลือกตั้งกลับเข้ามาใหม่ ก็ยังคงจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเหยิงในคดีที่ผ่านมา และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งกรณีของนายชาญ ก็จะเข้าเงื่อนไขดังกล่าวโดยอัตโนมัติ