ผู้สื่อข่าวรายงาน ตามที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง เร่งออกดำเนินการโยกย้ายขนกากแคดเมียมในพื้นที่สมุทรสาคร ที่ได้มีการตรวจพบปริมาณ รวมทั้งสิ้น 8,407 ตัน ปรากฏว่า ที่ผ่านมาทางสมุทรสาครได้มีทำการขนย้ายออกพ้นพื้นที่เพื่อส่งกลับ จ.ตาก เพื่อทำลายได้แก่ วันที่ 29 เมษายน 2567 และ 30 มิถุนายน ที่ให้สิ้นสุดไปนั้น 

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2567 นายผล ดำธรรม ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการด้านสารเคมีและวัตถุอันตราย ตามคำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ โดยมี นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย ร้อยตำรวจตรีสัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯสมุทรสาคร เป็นผู้นำการตรวจสอบสถาน ณ ที่เก็บกากตะกอนแคดเมียม (โกดังไม่มีชื่อ) ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน และ บริษัท ที่ตำบลบางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร โดยมีปลัดอำเภอกระทุ่มแบน และปลัดอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อม เจ้าหน้าที่จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, สนง.สิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนันผู้-ใหญ่บ้าน เข้าร่วมสำรวจประมาณ 

โดยสถานที่พบแห่งแรก คือ โกดังไม่มีชื่อ ในตำบลคลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน ซึ่งพบว่าภายในมีการขนย้ายกากแคดเมียม จำนวน 534 ตัน ขนออกไปจนหมดแล้ว, ส่วนที่เห็นอยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก และในถังพลาสติกสีฟ้านั้น เป็นเพียงเศษตะกอนทรายดำที่ทางเจ้าของโกดัง เก็บมาทำการคัดแยกหาสารโลหะหนัก เพื่อ นำไปสกัดขายเท่านั้น โดยในทรายดำไม่พบสารแคดเมียมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย ขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำรอบโรงงาน กากตะกอนจากรางน้ำทิ้ง และคุณภาพอากาศ ในเบื้องต้นไม่พบสารปนเปื้อนของกากแคดเมียม แต่ต้องรอผลยืนยันที่ชัดเจนจากห้องปฏิบัติการอีกครั้งต่อไป 

โดยมีการนำเครื่องตรวจวัดโลหะหนักของกรมควบคุมมลพิษ จะตรวจฝุ่นที่พื้นโกดังด้วยที่เคยเป็นที่เก็บกองกากแคดเมียมนั้น โดยบางจุดยังคงมีค่าแคดเมียมสูงเกินมาตรฐาน อย่างไรก็ตามจึงได้สั่งให้เจ้าของโกดังดำเนินการขัดล้างพื้นที่ภายในสถานที่เคยเก็บกองรอบใหม่ จนกว่าจะมีการตรวจแล้วไม่พบการปนเปื้อนสาร ทั้งนี้จึงได้ติดประกาศคำสั่งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ขยายระยะเวลาระงับการใช้พื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีก 1 เดือนนั้น จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 8 สิงหาคม 67 ดังนั้นจะเลื่อนจากคำสั่งก่อนห้านี้ ไปสิ้นสุดลงวันที่ 8 ก.ค.ที่จะถึงนี้ 

โดยกองอำนวยการ ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า ในการนี้ทางชุดปฏิบัติการสำรวจฯก็ได้เข้าตรวจที่บริษัท ต.บางน้ำจืด ซึ่งเคยกักเก็บกากแคดเมียม 1,005 ตัน แต่ปัจจุบันได้มีการขนย้ายออกไปจนหมดสิ้นแล้วเช่นกัน, ส่วนที่เห็นว่าเป็นสภาพเพียงกากอุตสาหกรรมโดยทางโรงงานรับซื้อมาเพื่อคัดแยกเอาโลหะต่างๆ อาทิ อลูมิเนียม ทองแดง นิกเกิล ไทเทเนียม ตะกั่ว เหล็ก เป็นต้น นอกจากนี้จากการตรวจวัดด้วยเครื่องตรวจวัดโลหะหนักตามจุดต่างๆ รวมทั้งวัตถุที่อยู่ในถุงขนาดใหญ่ ในบ่อน้ำ อากาศ และพื้นอาคารโรงงาน ที่เคยเป็นจุดกักเก็บกองกากนั้น ไม่พบการปนเปื้อนของสารแคดเมียม

สำหรับเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และตามกระบวนการขั้นตอนซึ่งหลังในการพิจารณาคืนพื้นที่ทาง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ออกคำสั่งประกาศให้ขยายระยะเวลาเพื่อห้ามมิให้บุคคลใดๆเข้าไปอยู่อาศัย หรือทำกิจการใดๆในพื้นที่อันอาจใกล้จะเกิดสาธารณภัย ก็คือ ขยายระยะเวลาระงับการใช้พื้นที่ไว้ก่อน (ในเวลาอีก 1 เดือน) เช่นเดียวกับโกดังใน ต.คลองมะเดื่อ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องด้วย บริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์เทคฯ ได้ตรวจแล้วโดยไม่พบการปนเปื้อนของสารแคดเมียม
 
ขณะเดียวกันด้านบริษัทฯ หากจะยื่นเรื่องขอเปิดใช้พื้นที่ หลังถูกระงับก่อนสิ้นสุดระยะเวลาตามที่ได้ประกาศไว้ โดยหากเอกสารมียืนยันผลตรวจที่ชัดเจนแล้ว จนท.ก็สามารถพิจารณาเพื่อให้คืนพื้นที่ได้ใช้งานต่อ เพื่อจะได้นำพื้นที่ไปใช้ประกอบกิจการได้ตามปกติ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯใน 2 จุด (ระหว่างโรง 1 และโรงงาน 2) ซึ่งเป็นสถานที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบใช้ในการเก็บกากดังกล่าว โดยมีปริมาณจำนวน 6,868 ตัน นั้น ชุดปฏิบัติการด้านตรวจสารเคมีและวัตถุอันตราย โดยทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร จะมาดำเนินการเข้าตรวจสอบใหม่ในวันที่ 2 ก.ค.67 ต่อไป