เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันรายย่อยในพื้นที่ต่าง ทยอยนำผลปาล์มน้ำมัน เข้าขายที่ โรงงานสกัดน้ำมัน บริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด ตำบลเสวียต (สะ-เหวียด) อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี หลังเปิดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน 18 เปอร์เซ็น จากเกษตรกรรายย่อย ในราคากิโลกรัม 5.50 บาท เป็นวันแรก ตามโครงการซื้อผลปาล์มคุณภาพ 20,000 ตัน เพื่อผลิตน้ำมันไบโอดีเซล พรีเมี่ยม เพื่อบรรเทาทุกข์ให้เกษตรในช่วงราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ซึ่งก็ช่วยให้เกษตรกรในพื้นที่มีรอยยิ้มได้บ้าง 

นายสุริยา นิลทจันทร์ เกษตรกรชาวตำบลเสวียต ที่นำผลปาล์มน้ำมันมาขายกว่า 3000 กิโลกรัม กล่าวว่า ทราบเรื่องการรับซื้อราคา 5.5 บาท จากป้ายประกาศที่รับซื้อในวันนี้ จึงนำเข้ามาขาย ทำให้เกษตรกรรายย่อยแบบตนได้กำไรขึ้นบ้าง เมื่อหักค่าต้นทุนปุ๋ยที่ราคาสูงขึ้น ซึ่งก็ขอขอบคุณบริษัทและรัฐบาลที่จัดโครงการนี้ซื้อปาล์มในราคาที่เกษตรกรมีกำไร ช่วยเกษตรกรรายย่อยอย่างตน ซึ่งที่ผ่านมาตนจำหน่ายปามล์ทะลายได้เพียง 4 บาทกว่าเกือบ 5 บาท แต่พอมาวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ได้ราคาที่เกษตรกรต้องการ เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรก็แทบจะไม่เหลืออะไรในการขายปาล์มน้ำมันแต่ละครั้ง ไหนจะค่าเก็บที่ลูกจ้างคิดเป็นตันๆละ 400-500 บาท  ค่าปุ๋ย อีกมากมาย 

นายทักษิณ ลี ผู้อำนวยการธุรกิจโรงงาน บ.นิวไบโอดีเซล จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายช่วยเหลือด้านราคาปาล์มน้ำมันของรัฐบาล ทางบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด (มหาชน) โดยให้ บ.นิวไบโอดีเซล จำกัด รับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกรรายย่อย จำนวน 20,000 ตัน ให้ บ.BBGI จำกัด (มหาชน) นำไปผลิตนิวไบโอดีเซล พรีเมี่ยม โดยให้ราคาที่สูงกว่าราคาตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย โดยจัดซื้อเป็นวันแรก และรับซื้อจากเกษตรกรรายย่อยทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลเสวียด และใกล้เคียง ที่เน้นไปที่เกษตรกรรายย่อยจริงๆ ซึ่งทางบริษัท ก็มีข้อมูลอยู่แล้วว่าใครเป็นเกษตรกรรายย่อยบ้าง และมีผลผลิตเท่าไรต่อไร่ เนื่องจากเกษตรกรเหล่านั้นที่ผ่านมาได้นำปาล์มทะลายมาขายให้กับโรงงานอยู่แล้ว เพื่อให้การรับซื้อปาล์ม 5.5 บาท ทั่วถึงเกษตรกรรายย่อยมากที่สุด 

อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าเกษตรกรรายย่อยจะเข้ามาขายปาล์มให้กับโรงงานในช่วงบ่ายและเย็นของทุกวัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับซื้อในราคานี้ได้ประมาณ 2 เดือนจึงจะครบ 20,000 ตัน ตามข้อกำหนดของโครงการ ส่วนจะมีการขยายโครงการในการรับซื้อปาล์มอีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ