วันที่ 1 ก.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ “ประตูสู่อีสาน ศูนย์กลางการท่องเที่ยวอารยธรรม และเกษตรมูลค่าสูง” และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 ที่จังหวัดนครราชสีมา และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์)

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมคณะ นอกจากนี้ยังมี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา มาให้การต้อนรับ

ทั้งนี้นายกฯ สวมเสื้อแขนสั้นลำลองสีเหลืองลายโคราชโมโนแกรม (KORAT Monogram) ที่ถือเป็น 1 ใน soft power ของจังหวัด โดยมีรูปแมวโคราช (Korat Cat) สัตว์ประจำจังหวัดนครราชสีมา โดยนายกฯได้รับหนังสือร้องเรียนราคาน้ำมัน รถขนส่ง และเรื่องปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ

จากนั้นได้ทักทายกลุ่มมวลชนเสื้อแดงโคราชที่มาต้อนรับ นำโดยนายทวี อภิชาติเสนีย์ ประธานมวลชนคนเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด ซึ่งมวลชนสวมเสื้อยืดสีขาวสกรีนรูปนายเศรษฐา และรูป พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมข้อความ “พลังคนไทยต้านภัยยาเสพติด” นอกจากนี้ยังชูป้ายข้อความว่า มวลชนชาวเสื้อแดงโคราช ขอต้อนรับ นายเศรษฐา ทวีสิน และคณะรัฐมนตรี ด้วยความยินดียิ่ง , ขอสนับสนุนนโยบายพลังคนไทยต้านยาเสพติด เป็นต้น  

จากนั้นนายกฯกล่าวเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “Digital Korat: The Future Starts now – โคราช มหานครดิจิทัลแห่งอนาคต” ว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงาน ที่จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งทุกท่านทราบดีเรากำลังเข้าสู่สังคมดิจิทัล ผู้คนในสังคมได้สัมผัสการทำงาน ทำธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อำนวยความสะดวกให้กับทุกคน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ปรากฏเป็นรูปธรรม และเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำรงชีวิตของพวกเราในการดำรงชีวิตในรูปแบบปัจจุบัน และหลายองค์กรในโลกปัจจุบันกำลังถูกเคลื่อนย้ายในการให้การบริการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงการทำงานให้เป็นรูปแบบดิจิทัลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการบริหารในรูปแบบการกระจายอำนาจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล และทำให้ประชาชนได้รับการบริการจากรัฐสะดวกมากยิ่งขึ้น 

นายเศรษฐา กล่าวว่า ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลเราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเมืองอุตสาหกรรมระดับโลกและเป็นศูนย์กลางดิจิทัล รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของประชาชนและบุคลากรทางภาครัฐให้มีทักษะและปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเสมอ ขอขอบคุณกระทรวงดิจิทัลฯและหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมกันบูรณาการทำงานในครั้งนี้ และหวังว่าการจัดงานในโครงการนี้จะช่วยให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของดิจิทัลในทุกวิถี ทุกมิติ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญอีกตัวหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และขอให้การจัดงานครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

จากนั้นนายกฯได้เยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนวงดนตรีย่าโมซิมโฟนีออเคสตร้า พร้อมถ่ายภาพร่วมกับนักเรียนในวงฯ ต่อจากนั้นได้เดินทักทายนักเรียนที่มาร่วมงาน และถ่ายภาพเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง ซึ่งเด็กๆนักเรียนต่างส่งเสียงกรี๊ดเมื่อได้เจอกับนายกฯ จากนั้นนายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน ซึ่งได้มีการมอบภาพวาดสีน้ำมันรูปนายเศรษฐา ให้ด้วย