"วันชัย"เปรียบเทียบ "สว.แต่งตั้ง-จัดตั้ง" ต่างกันตรง "สั่งได้ ขอได้" เชื่อสว.ที่ได้มา คงเสียบบัตรเป็น กดปุ่มเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย งดออกเสียง ได้ เป็นแค่สภากลั่นกรองไม่มีอำนาจอะไร ด้าน “นิกร”บอกควรให้โอกาสทำหน้าที่ก่อน อย่าเพิ่งด้อยค่าสว.ชุดใหม่
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.67 นายวันชัย สอนศิริ สว. โพสต์ข้อความเรื่อง "จาก สว.แต่งตั้ง สู่ สว.จัดตั้ง" ระบุว่า เห็นพูดกันมามากว่าสว.ที่ได้รับเลือกคราวนี้มาจากการจัดตั้งของพรรคการเมืองทั้งนั้น แล้วก็วิเคราะห์กันไปเยอะแยะว่า สว.ชุดนี้จะมีอำนาจต่อรองเรื่องนั้นเรื่องนี้ และอาจเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพรรคการเมืองบางพรรค เสมือนว่า สว.ชุดนี้จะมีอำนาจราชศักดิ์เยอะแยะเสียเหลือเกิน
ความจริงเมื่อ สว.ไม่มีสิทธิ์โหวตนายกฯ เสียแล้ว ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ธรรมดๆ มาก เป็นแค่เพียงสภากลั่นกรองเท่านั้น จะตั้งคนในองค์กรอิสระด้วยตัวเองยังไม่ได้เลย ต้องผ่านคณะกรรมการสรรหาชุดต่างๆ เขาส่งมาให้เสียก่อนจึงจะทำได้ มิได้มีอำนาจอะไรในตัวเองสักเท่าไร พูดกันมากไปเปล่า บางทีก็เยอะจนเลอะเทอะไปเสียด้วย
มาดูซิ ว่า สว.แต่งตั้งกับสว.จัดตั้ง ต่างหรือเหมือนกันอย่างไร ต่างกันตรงที่สว.แต่งตั้งนั้นจะต้องหาคนที่แต่งเนื้อแต่งตัวดูดีมีสกุล ประเภทที่เป็นอดีตข้าราชการ อธิบดี ปลัดกระทรวง ผู้ว่าฯ แม่ทัพนายกอง ครูบาอาจารย์ แล้วก็เอามาแต่งตั้ง ส่วน สว.จัดตั้ง ก็จัดกันเข้ามา ต้อนกันเข้ามาสารพัด ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้ากล้วยทอด คนขับรถ พิธีกรงานแต่ง โฆษกงานวัด อสม. ฯลฯ จัดๆ กันเข้ามา แล้วก็เอามาเป็น สว.จากการจัดตั้ง ที่เหมือนกันก็น่าจะมีอยู่อย่างหนึ่งคือ สั่งได้ บอกได้ ขอได้ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย ได้ครับท่าน
"ผมก็มีความเชื่อมั่นว่าทั้ง สว.แต่งตั้ง และ สว.จัดตั้ง คงเสียบบัตรเป็น และก็คงจะกดปุ่มเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย หรืองดออกเสียงได้ ก็เท่านั้นแหละ จะอะไรกันนักหนา ประเภทมีความรู้ความสามารถแต่ไม่ทำ หรือเก่งแต่ไม่กล้า ก็ไม่มีประโยชน์อะไร จะโทษใครล่ะ ก็กฎ กติกา มันเปิดช่องให้แต่งตั้งได้ ให้จัดตั้งได้ จับได้ไล่ทันก็ว่ากันไป จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
ท่านก็มาเป็น สว. เลิกขายกล้วยแขก เลิกขับรถ เลิกเป็นพิธีกรงานวัด แล้วก็มารับเงินเดือนภาษีของประชาชนกันต่อไป ใครจะว่าอย่างไร ก็แค่นั้น แล้วใครจะไปดีกว่าใครล่ะ ก่อนรับตำแหน่ง ใครที่บนหลวงพ่อสัมฤทธิ์ประสิทธิโชค วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชันไว้ ก็อย่าลืมมาแก้บนนะ ไม่อย่างนั้น ระวังจะโดนสอย
ด้าน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา และคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 โพสต์เฟซบุ๊กระบุความเห็นถึงรายชื่อสว.ชุดใหม่ ว่า เขาคือใครและเราคือใครในประเด็นสว.ชุดใหม่ ผมขอให้ความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เกี่ยวกับวุฒิสมาชิกชุดใหม่ หลังจากฟังเสียงรอบข้างมาระยะหนึ่ง
1.ผมเห็นว่าควรมีวุฒิสภามาช่วยกลั่นกรองกฎหมาย และจะดีที่มาจากสาขาอาชีพต่างๆ แม้ในครั้งนี้จะมีปัญหาอยู่บ้างในระบบขั้นตอนของการได้มาตามกฎหมายในครั้งนี้ ที่เมื่อเราได้เรียนรู้ข้อผิดพลาดแล้วค่อยแก้ไขในโอกาสต่อไป แต่ก็ถือว่าแนวนั้นมาถูกทางแล้ว 2.ผมไม่เห็นด้วยกับการมีสว.มาจากการแต่งตั้ง แม้เคยเห็นการแต่งตั้งสว.ที่ดีที่สุดในสมัยท่านนายกฯบรรหาร ศิลปอาชา โดยคณะกรรมการที่เป็นอิสระ แม้แต่คนที่ท่านเสนอเห็นว่าเหมาะสม แต่ยังต้องถูกกรรมการคัดออก หรือผมเคยได้รับมอบหมายให้ทาบทามบุคคลมาเป็นวุฒิสมาชิกภาคเกษตรท่านหนึ่งในภาคใต้ ผมโทรไป ลูกสาวบอกว่าพ่อไม่อยู่ไปตัดยางในสวนกลับเย็นๆ เขาเป็นเกษตรกรธรรมดาได้เป็นวุฒิสมาชิกในครั้งนั้นด้วย ผ่านมา20กว่าปีแล้ว เขายังทำงานให้เกษตรกรอยู่จนปัจจุบันเพราะเขาเป็นตัวแทนอาชีพเกษตรกรจากรากหญ้าจริงๆ
3.ผมไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งสว.โดยตรง เพราะจะเกิดปัญหาตัวแทนประชาชนซ้อนกัน ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้แทนประชาชนกันแน่ และที่สำคัญจะถูกแทรกแซงและครอบงำโดยตรงจากฝ่ายการเมืองอย่างแน่นอน ไม่ใช่การเข้ามาเกี่ยวข้องโดยอ้อมเหมือนครั้งนี้ 4.ผมไม่เห็นด้วยกับการไปด้อยค่าสว.ชุดนี้ เพราะผมคิดว่าเราเป็นแค่บุคคลคนหนึ่งในสังคมนี้ เราไม่มีสิทธิที่จะไปให้ความเห็นเช่นนั้น เราด่าว่าวุฒิที่มาจากหอคอยงาช้าง หรือมาจากการแต่งตั้ง แต่พอเราได้จากกลุ่มที่มาจากอาชีพต่างๆ และบ้างก็มาจากรากหญ้าโดยตรง เราก็ไปด้อยค่าเขาอีก คำถามกลับมาที่ตัวเราเองว่าเราเป็นใคร สูงส่งแค่ไหนถึงมีสิทธิให้ความเห็นเช่นนั้นได้
5.ผมอยากให้ กกต. ไปดำเนินการตรวจสอบไปตามกฎหมายที่เขามีหน้าที่และอำนาจไม่ใช่ตามที่เราอยากให้เป็นไป จากนั้นให้วุฒิสมาชิกที่ผ่านการตรวจสอบทำหน้าที่ของเขากันไปก่อนกันถึงค่อยมาใช้สิทธิว่ากล่าวเขาตามที่ควรเป็น เพื่อบ้านเมืองไม่ใช่เพื่อความสะใจของเราเอง 6.ผมแค่เป็นคนที่มองโลกตรงไปตรงมาในแง่ดี เพราะผมเองคิดว่าผมก็แค่คนๆ หนึ่งที่ทำงานทางการเมืองแม้จะยาวนาน แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย หรือ ฝ่ายไหนที่สูงส่งกว่าใคร ผมเคารพทุกๆคนที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง และผมไม่ชอบการยกตนข่มท่าน ว่าใครดีกว่าใคร เพราะมันวัดกันที่ใครจริงใจกับประเทศชาติและประชาชนมากกว่าใคร ซึ่งมันวัดกันยากมาก ต้องใช้เวลาพิสูจน์คนทางการเมือง เราควรจะให้เวลากับท่านสว.ชุดนี้กันสักระยะหนึ่ง โดยไม่ดูถูกความเป็นเพื่อนร่วมชาติผู้เสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่กันไม่ดีกว่าหรือ? ครบปีแล้วค่อยมาว่ากล่าวกันก็ยังทันครับ