เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.67 พ.ต.อ. สุรพงษ์  สุขแย้ม ผกก.สน.บางนา กล่าวถึงคดีนายเจษฎา (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 39 ปี ถูกยิงเสียชีวิตขณะนี้ให้ฝ่ายสืบสวนร่วมกับกก.สส.น.5และบก.สส.บช น ตรวจไล่กล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียงดูเส้นทางก่อนและหลังเกิดเหตุหลบหนีไปทางไหน ส่วนผู้ต้องสงสัย 3 คน นำตัวมาสอบสวน เนื่องจากตรวจประวัติเคยมีปัญหากับกลุ่มผู้เสียชีวิต เบื้องต้นยังไม่พบมีส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเสร็จปล่อยตัวไป

ทั้งนี้เมื่อประสานข้อมูลกับสภ.สำโรงเหนือ ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาชีพขี่รถจยย.รับจ้าง และยังทำงานเป็นอาสาสมัครมูลนิธิแห่งหนึ่ง มีประวัติพัวพันยาเสพติดและเสพยา สน.บางนา กลุ่มผู้เสียชีวิตและกลุ่มผู้ก่อเหตุมีเรื่องบาดหมาง ทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำที่ย่านวัดด่านสำโรง ต.สำโรงเหนือจ.สมุทรปราการ 


ขณะเดียวกันนายวรเชษฐ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตถูกฝ่ายสืบสวน สน.บางนา เรียกมาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ว่าปมเกิดจากเรื่องที่ตนและกลุ่มกลุ่มผู้ก่อเหตุมีปากเสียงถึงขั้นชกต่อยมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ตนและกลุ่มผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องถึงขั้นต้องขึ้น สภ.สำโรงเหนือมาแล้วถึง 4 คดี หากย้อนไปแต่ละคดีตนยืนยันว่าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกลุ่มของตนไม่เคยเป็นคนเริ่มก่อนแม้แต่คดีเดียว รวมถึงคดีที่เกิดขึ้นนี้ด้วย เพราะก่อนที่จะเกิดเหตุตนไปนั่งดื่มกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่นายเล็ก กับนายปาย เป็นคู่อริ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาเบิ้ลใส่ที่หน้าร้านที่ตนนั่งอยู่ถึง 3 รอบด้วยกัน ขณะนั้นตนยอมรับว่าเมาสุรา เกิดความโมโห ก่อนจะขับรถพร้อมกับผู้ตายตามกลุ่มผู้ก่อเหตุไป ระหว่างที่ขับตามไปนั้นปรากฏว่านายเล็ก และนายปาย ได้ขับไปหากลุ่มของเขาที่ดักรออยู่ ทำให้ตนทราบเลยว่าถูกกลุ่มคนก่อเหตุลวงออกมาดักยิง ตนพยายามขับรถหนี ก่อนจะมาถูกยิงตามที่เห็นภาพในกล้องวงจรปิด ตอนนั้นตนไม่ทราบว่าผู้ตายที่เป็นรุ่นพี่ถูกยิงมาทราบอีกทีตอนที่ผู้ตายเอนตัวลงมาหาตนขณะที่กำลังขับรถมาขอความช่วยเหลือ หลังจากเกิดเหตุถึงตอนนี้ตนทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ ทำได้เพียงให้การกับตำรวจเท่านั้น และตนทราบว่าหลังเกิดเหตุมีการสั่งเก็บตนแล้ว หลังจากนี้ตนเป็นอะไรไป ขอให้รู้ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุที่มาทำร้ายตนคือกลุ่มเดียวกับที่ไล่ยิงตนเมื่อคืนก่อน


อย่างไรก็ตามตั้งแต่มีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุก่อนหน้านี้ก็เป็นเพียงแค่การชกต่อยกันเท่านั้น แต่ตอนนี้มันถึงขั้นการสูญเสียกันแล้ว ถามว่าตนอยากจบเรื่องทั้งหมดไหม ส่วนตัวอยากจบแล้วเพราะไม่อยากให้มีการสูญเสียเพิ่มเติม แต่ในทางคดีอยากให้ตำรวจได้มีการจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้


ต่อมา  พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เดินทางประชุมติดตามคดี ที่สน.บางนา  ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดเผยว่า วานนี้ได้เชิญกลุ่มที่มีปัญหากับผู้ตายมาสอบปากคำไม่ได้ให้การที่เป็นประโยชน์อะไร ตำรวจได้ปล่อยตัวและไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร ส่วนเมื่อถามถึงปมสาเหตุในครั้งล่าสุด จากการสอบปากคำกลุ่มผู้เสียชีวิต บอกว่า กลุ่มที่ก่อเหตุมีปัญหากับกลุ่มผู้ตายกันมาก่อนและหลายครั้ง มีการกระทบกระทั่งกันมาตลอด แต่ขอรวบรวมข้อมูลและพยานหลักฐานก่อน แต่ยืนยันจากปัญหาที่มีกันมาก่อน ทำให้เหตุล่าสุดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาสถาบันการเรียน ส่วนที่คนขับรถคันที่ถูกยิงกังวลเพราะว่าถูกคุกคามเอาชีวิต พล.ต.ต. วิทวัฒน์ กล่าวว่า ถ้ารู้สึกไม่ปลอดภัยหรือกังวลก็ให้มาบอกตำรวจเพื่อความปลอดภัย ส่วนเรื่องการออกหมายจับอยู่ระหว่าง รวบรวมพยานหลักฐาน


คดีนี้สืบเนื่องจากมีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาหลายคัน มีคนร้าย 2คน สวมหมวกกันน็อก แต่งตัวมิดชิดทั้ง 2 คน ขี่รถจยย.อยู่ในกลุ่มจอดรถกลางสามแยกไฟแดงลาซาลตัดแบริ่ง ถนนลาซาล แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. พื้นที่ สน.บางนา ใกล้กับร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร้านอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการคนร้ายทั้ง2ใช้ปืนคนละกระบอกกระหน่ำยิงไปที่รถโตโยต้า เกือบ 10 นัด มีนายวรเชษฐ์  อายุ 37 ปี เป็นคนขับ และนายเจษฎา อายุ 39 ปี นั่งเบาะหน้าคู่คนขับถูกกระสุนปืนยิงเข้าศีรษะ 1 นัด รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะไปเสียชีวิตที่รพ.สำโรงการแพทย์ในเวลาต่อมา

เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.20 น. วันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา  ตรวจสอบบริเวณหน้าร้าน ดังกล่าว พบปลอกกระสุนปืน   3 ปลอกตกอยู่บนถนน  และรถโตโยต้า ถูกกระหน่ำยิงใส่ท้ายรถ 7 นัด ทะลุเข้าไปในห้องผู้โดยสาร

นายวรเชษฐ์ คนขับรถโตโยต้า  ให้การว่า ตนเป็นลูกจ้างของอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ย่านวัดด่านสำโรง ก่อนเกิดเหตุมานั่งดื่มที่ร้านดังกล่าว ใกล้สามแยกไฟแดงลาซาลตัดแบริ่ง เป็นร้านนั่งประจำ บังเอิญมาพบกับนายเจษฎา เพื่อน นั่งดื่มด้วยกัน ต่อมามีกลุ่มผู้ก่อเหตุ7-8คน ขี่รถจักรยานยนต์ประมาณ3-4 คัน ขับขี่มาวนดูหน้าร้านและเบิ้ลรถ ตนกับนายเจษฎา ออกจากร้านขับรถมุ่งหน้าไปทางสามแยกไฟแดงลาซาลตัดแบริ่ง (ฝั่งลาซาล) และวนรถกลับมา ที่ร้าน ดังกล่าว ได้ยินเสียงปืนดัง 5-6 นัด  ตนหันมาพบว่านายเจษฎาถูกยิงบริเวณศีรษะ รับบาดเจ็บ รีบนำตัวส่ง รพ.สำโรงการแพทย์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  

ภายหลังเกิดเหตุพล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมคลี่คลายคดี พร้อมกับให้ สน. บางนา เร่งรัดการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ จากรายงานการสืบสวนทราบว่าฝ่ายผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาเบิ้ลเครื่องยั่วยุกลุ่มผู้ตาย  ที่หน้าร้านอาหารดังกล่าว สถานบันเทิง จ.สมุทรปราการ จุดเริ่มต้น ก่อนที่นายวรเชษฐ์ รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุและเคยมีปัญหากันมาก่อน ขับรถโตโยต้า ออกจากร้าน ตามผู้ก่อหตุไป มีนายเจษฎา ผู้ตายเป็นรุ่นพี่ไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ขึ้นรถนั่งข้างคนขับไปด้วย

จากนั้นถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ขับขี่รถจักรยานยนต์หลายคัน มีคนร้าย2คนขี่รถจยย.อยู่ในกลุ่มจอดรถกลางสามแยกไฟแดงลาซาลตัดแบริ่ง ถนนลาซาล จุดก่อเหตุแล้วใช้ปืนคนละกระบอกกระหน่ำยิง ไปที่รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ทำให้กระสุนถูกนายเจษฎาที่ศีรษะบาดเจ็บและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเก็บพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทราบเบาะแสกลุ่มผู้ก่อเหตุ คาดว่าเป็นคนในพื้นที่ย่านสำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เช่นเดียวกับกลุ่มของผู้ตาย เป็นเขตติดต่อกับกทม.

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 มิ.ย. พ.ต.อ. สุรพงษ์  สุขแย้ม ผกก.สน.บางนา สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน. บางนา เชิญชายหนึ่งคน คาดว่าเป็นคนรู้จักหรือรู้ข้อมูลกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบสวน ก่อนจะกลับออกไป ชายคนดังกล่าวขับรถเก๋งเบนซ์หรูออกจากโรงพักไปไม่ให้ถ่ายรูปและให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 18.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น.  หรือสารวัตรแจ๊ะ ควบคุมชาย 3 คน ผู้ต้องสงสัยคาดว่าเป็นเพื่อนกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำที่ สน.บางนา ระหว่างควบคุมทั้ง 3 คนมีท่าทีปกติ อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุและไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ ก่อนจะเดินเข้าห้องสอบสวน

มีรายงานว่า 1ใน 3 ผู้ต้องสงสัยเป็นศิษย์เก่าของสถาบันแห่งหนึ่งย่านสนามกีฬาแห่งชาติ หัวหน้าแก๊งกลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ