วันที่ 30 มิ.ย.67 ที่โรงเรียนรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อร่วมประชุมหารือแผนพัฒนาจ.สุรินทร์ โดยมีนายมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์เขต 5 พรรคเพื่อไทย(พท.)นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.สุรินทร์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับ เมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึงได้ทักทายประชาชนที่พร้อมใจตะโกนว่า “เรารักนายกฯเศรษฐา”
จากนั้น นายกฯ ได้พบปะพูดคุยกันพร้อมสอบถามทหารผ่านศึก ถึงชีวิตความเป็นอยู่หลังจากสู้รบรับใช้ชาติมา ทั้งนี้ ตัวแทนทหารผ่านศึกได้สอบถามเรื่องของเงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกเดือนละ 3,000 บาท ซึ่งนายกฯ กล่าวว่าจะไปประสานและติดตามให้
นอกจากนี้นายกฯ เยี่ยมชมแม่พันธุ์โคเนื้อ ของกัปตันฟาร์มวากิว ซึ่งเป็นเครือข่ายโคเนื้อสุรินทร์วากิว โดยนายกฯสอบถาม ถึงการเลี้ยง และการพัฒนาคุณภาพเนื้อ เพื่อให้เทียบเท่ากับต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
จากนั้น เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากเนื้อสุรินทร์วากิว พร้อมชิมเนื้อวากิวย่างก่อนชมว่าอร่อยเนื้อดี รวมถึงสอบถามราคาว่าผลิตภัณฑ์แปรรูปแช่แข็งราคาเท่าไหร่ พร้อมนำเนื้อวากิวย่างแจกให้คณะที่ติดตามได้ลองชิมด้วย
ก่อนที่นายกฯจะเดินเยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรต่างๆ รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูป และซื้อผ้าไหมสุรินทร์ไปเป็นที่ระลึก รวมถึงได้ลองชิมข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ของกลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าว สหกรณ์โคเนื้อสุรินทร์วากิวยางสว่าง จำกัด ต.ยางสว่าง อ.รัตนบุรี และให้ความสนใจคุณประโยชน์ข้าวผกาอำปึล หรือ ปกาอำปึล ข้าวจ้าว พื้นถิ่นเมืองสุรินทร์ หรือข้าวดอกมะขามข้าว ซึ่งเป็นที่นิยมจากผู้บริโภคจำนวนมากเนื่องจากมีประโยชน์ เหมาะผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ปัจจุบันราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาทตกตันละ 100,000 บาท
จากนั้นนายกฯ ประชุมพัฒนาจ.สุรินทร์ โดยกล่าวว่าวันนี้เดินทางมาดูแผนพัฒนาจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งได้รับการนำเสนอจากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบทุกมิติ พร้อมกล่าวเสนอแนะในด้านต่าง ๆ เรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด พึ่งพาน้ำในการทำเกษตรกรรม ดังนั้นไม่ท่วมไม่แล้งจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตรงนี้เราต้องทำให้ดีที่สุด จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดทางน้ำผ่าน เรื่องปัญหาน้ำท่วมจึงไม่ค่อยมี จะมีแต่เรื่องน้ำแล้ง ดังนั้นการเตรียมการรองรับเรื่องภัยแล้งในเรื่องของการขุดลอกบ่อน้ำก็เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งโครงการขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยแก้วได้อนุมัติงบฯ ไปแล้ว ส่วนโครงการอื่น ๆ ก็จะได้ให้กรมชลประทานร่วมกับ สทนช. ในการที่จะดำเนินการเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยขอให้กรมชลประทานเร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยเฉพาะบางแหล่งน้ำต้องรีบดำเนินการเพื่อรองรับน้ำฝนที่จะมาถึงซึ่งจะช่วยทั้งเรื่องน้ำท่วมและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง รวมถึงการเตรียมการบริหารจัดการน้ำในอนาคต ด้วย
เรื่องการพัฒนาศักยภาพของด่านการค้าชายแดน นายกฯ ขอให้กรมศุลกากรหาแนวร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาด่านศุลกากรช่องจอม โดยให้พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ตลอดจนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ต่อไปส่วนเรื่องการก่อสร้างสนามบินสุรินทร์ ขอให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาสร้างสนามบินดังกล่าว
สำหรับแนวทางเลี้ยงโคสายพันธุ์ “สุรินทร์กิว” (โควากิว) นั้น นายกฯ เห็นว่ามี 2-3 เรื่องที่ต้องมาดูกัน ทั้งเรื่องของการดำเนินการครบวงจร การพัฒนาสายพันธุ์ซึ่งก็ดำเนินการไปได้ระดับหนึ่งแล้ว โดยมองว่าเนื้อวากิวเองตัวหนึ่งกำไรถึง 4-5 หมื่นบาท ซึ่งในระยะยาวหากสามารถพัฒนาสายพันธุ์ดีขึ้นได้ก็จะทำให้ราคาสูงขึ้น ดังนั้นการพัฒนาสายพันธุ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อเรามีของที่ดีอยู่แล้วอย่าไปคำนึงเพียงแค่กำไรระยะสั้น มองว่าเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเอง แต่ขอให้คำนึงถึงเรื่องคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าด้วย
รวมถึงเรื่องการพัฒนาเรื่องการตัดแต่งปรุงเนื้อเพื่อให้้ขายแล้วได้กำไรมาถึงพี่น้องประชาชนได้สูงขึ้น ตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องหาทางสนับสนุนให้มีโรงเชือดที่มากขึ้นรองรับ ส่วนเรื่องของตลาดรองรับมีอยู่แล้วทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น จีน และ Middle East ทั้งนี้การที่เรามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงเรื่องแลนด์บริดจ์รองรับก็จะเป็นกำลังสำคัญในการส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ทั้งจีน และ Middle East โดยขอให้กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันให้เนื้อสุรินทร์กิว ได้รับการรับรองให้เป็นสินค้า GI ประจำจังหวัดสุรินทร์ด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ได้เน้นย้ำถึงการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะในโรงเรียน ขอให้มีการให้ความรู้และปลูกฝังถึงผลร้ายของยาเสพติดเป็นเรื่องจำเป็น โดยฝากผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และศึกษาธิการจังหวัด ให้มีการบรรจุเข้าไปในทุกกิจกรรมโรงเรียน เช่น การเล่นกีฬา หรือในทุกเช้าอาจมีการเสริมสร้างให้ปฏิญาณตนว่าเราจะอยู่ห่างไกลจากยาเสพติด เพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ ไม่ให้พ่อแม่ พี่น้อง ต้องผิดหวังเรื่องของยาเสพติด
นายกฯ ย้ำว่าทุกเรื่องทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ การขุดลอกคูคลอง หนองบึง การพัฒนาสายพันธุ์ข้าว รวมทั้งสุรินทร์กิวที่เราจะพัฒนานั้น หากบุคลากรของประเทศติดยา สิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นประชาชนทุกภาคส่วนทั้งประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ต้องหามาตรการทำให้ชุมชนเราเข้มแข็ง รวมถึงการป้องกันปราบปราม ที่ต้องทำควบคู่พร้อมกันไปด้วยกับฝ่ายทหาร ตำรวจ ซึ่งต้องทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการเพื่อให้ปัญหายาเสพติดหมดไป โดยนายกฯ ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัดสุรินทร์อย่างเต็มที่ ให้เติบโตได้ตามศักยภาพของจังหวัดสุรินทร์ต่อไป