จากที่ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนพร้อมกับนำคลิปกล้องวงจรปิดจาก น้องตาล (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย อายุ 19 ปี อยู่หมู่ 3 ต.ปราสาททอง อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ว่า เมื่อเวลา 04.50 น. ของวันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ตนได้มาพักที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ (สุรินทร์แมนชั่น ถนนดองกระเม็ด อ.เมือง จ.สุรินทร์) โดยได้เข้าพักอยู่ชั้น 2 ห้องพักหมายเลข 214 หอพักสุรินทร์แมนชั่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ต่อมาเวลา 04.50 น. แฟนหนุ่มตนได้เดินทางออกจากห้องเพื่อไปทำธุระ และแฟนหนุ่มเดินลงมาข้างล่างได้บอก รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) ว่าเดี๋ยวจะมีเพื่อนน้องมาอยู่เป็นเพื่อนกับน้องอีก 2 คน ช่วยเปิดคีย์การ์ดให้ขึ้นไปที่ห้องด้วย จากนั้นประมาณ 4 นาที (04.54 น.) รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) ได้ขึ้นมาและยืนอยู่หน้าห้องพัก 214 ประมาณ 1 นาที และเปิดประตูเข้าไป จนเวลาผ่านไปเวลา 05.02 น. ผู้ก่อเหตุใช้เวลาอยู่ในห้องประมาณ 8 นาที จึงเดินออกมา และทำทีมาเคาะประตูแบบไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น โดย รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) เข้าไปในห้องพักของตน ซึ่งตนนอนอยู่ที่เตียงแล้วยืนอยู่ข้างเตียงนอนตน คนร้ายได้ใช้มือจับหัวจับแขนจับขาพร้อมกับเอามือของตนให้ไปจับคลำตามตัวของ รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) 

เมื่อตนทราบว่าไม่ใช่แฟนตนจึงสู้สุดฤทธิ์และได้ถีบคนร้ายออก และถามว่ามึงเป็นใคร รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) ก็ใช้กำปั้นต่อยเข้าที่ท้องและต่อยเข้าที่หน้าบริเวณหน้ผากทั้งซ้ายและขวา พร้อมกับพยายามดันตนลงที่เตียงและใช้หมอนปิดหน้าใช้หัวเข่ากดคอและหน้าอกตน ซึ่งตนพยายามสู้และร้องตะโกนขอให้คนช่วย เสียงดังมากจนข้างห้องซึ่งเป็นห้องพักของ ผจก.แมนชั่น  ได้ยินและโทรขึ้นมาที่ห้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ด้าน รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) เห็นท่าไม่ดี จึงได้รีบวิ่งหลบหนีออกจากห้องไป 

จากนั้นไม่กี่นาทีก็มีเจ้าหน้าที่ รปภ.(ผู้ก่อเหตุ) ของแมนชั่นดังกล่าวได้มาเคาะห้อง สอบถามว่ามีอะไรไหมทำไมมีเสียงดัง ตนจึงบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) ฟัง ขณะนั้นยังไม่รู้ว่า รปภ.เป็นผู้ก่อเหตุ เพราะตอนที่คนร้ายเข้ามาในห้องได้ปิดไฟห้องน้ำจนมืดสนิทมองไม่เห็นหน้า แต่ตนรู้สึกสงสัยว่ารูปร่าง รปภ.นั้นใกล้เคียงคนร้าย จากนั้นตนได้โทรศัพท์บอกแฟนตน โดยแฟนตนได้มากับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับได้สอบถามกับ รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งแฟนตนสังเกตว่า รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) มีท่าทีพิรุธมือไม้สั่นเวลาสอบถาม ทราบชื่อต่อมาชื่อนายจาตุรงค์ หรือทิว (รปภ.ผู้ก่อเหตุ) อายุ 38 ปี พักอยู่หมู่ 12 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แฟนตนเลยบอกกับผู้จัดการแมนชั่นว่า  ขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อจะได้รู้ว่าเป็นใครพร้อมกับสอบถามว่า รปภ. (ผู้ก่อเหตุ) ที่จ้างมาของบริษัทอะไร แต่ก็ไม่ได้รับความสะดวกจากเจ้าของแมนชั่นไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย

จากนั้นตนได้เข้ามาที่ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ขจร แรงจบ รอง สว.สอบสวน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ติดต่อขอกล้องวงจรปิดกับทางแมนชั่นดังกล่าว จึงทราบว่าเป็นนายจาตุรงค์ รปภ.ผู้ก่อเหตุ จริงๆ ที่แอบเข้าห้องพักของน้องตาล ผู้เสียหาย หมายจะข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คลิปกล้องวงจรปิดของแมนชั่นไปแล้วนายจาตุรงค์ ได้ลาออกและหลบหนีไปไม่ทราบว่าไปกบดานอยู่ที่ไหน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกหมายจับติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่ามีการกระทำความผิดจริง จึงได้ออกหมายจับแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังออกติดตามตัวนายจาตุรงค์ เพื่อนำมาดำเนินคดี โดยเบื้องต้นตั้งข้อหาบุกรุกเข้าไปเคหะสถานเวลากลางคืนกระทำอนาจารและทำร้ายร่างกายอีกด้วย

ล่าสุด วันที่ 29 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายใต้ การอำนวยการและสั่งการของ พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 12.00 น. นำโดย พ.ต.ท.วัชรพงศ์ พวงบุตร รอง ผกก.สส สภ.เมืองสุรินทร์ , พ.ต.ท.สทรัตน์ แก่นดี สว.สส.ฯ พร้อมชุมสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ชุด กก.ดส.บช.น. ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1บก.สส.3 ได้เดินทางไปรับตัวนายจาตุรงค์ โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งการควบคุมตัว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ มาตรา 22,23 ได้ที่บริเวณหน้าบริษัทผลิตรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถพิเศษต่างๆ ตั้งอยู่ ม.3 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน,กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดย ทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น และทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น" ตามหมายศาลจังหวัดสุรินทร์จับลงวันที่ 25 มิ.ย.67 พร้อมกับนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อดำเนินคดี

นายจาตุรงค์ ซึ่งได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สถานีตำรวจเมืองสุรินทร์ (พูดจาวกวน) ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันที่เกิดเหตุนั้น ตนได้รับแจ้งจาก ผจก.แมนชั่น ว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ภายในห้อง 214 จากนั้นตนก็ได้ขึ้นไปตรวจสอบโดยการเคาะห้องเพราะห้องล็อกอยู่ ฝ่ายผู้หญิงจึงมาเปิดประตูให้ ตนเห็นผู้หญิงไม่ได้สวมเสื้อผ้าตนเห็นเช่นนั้นจึงตกใจ แต่ก็เดินเข้าไปในห้องเพื่อพูดคุยสอบถาม และเห็นว่าผู้หญิงนั้นมีรอยช้ำที่หน้าเหมือนโดนกระแทก

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า แล้วทำไมเข้าไปในห้องนาน แต่ทาง รปภ.ไม่ตอบกลับบอกว่าตนนั้นตกใจวิ่งออกมาจากห้องและวิ่งออกมา พอตั้งสติได้จึงเดินเข้าไปเคาะประตูอีกครั้ง จนผู้หญิงเดินนุ่งมาขนหนูออกมาคุยนอกห้อง ส่วนเข็มขัดตนนั้นที่หลุดหลุ่ยนั้นเกิดจาก เข็มขัดหลวมและที่ตนไปทำงานที่ จ.สมุทสาครเพราะเป็นงานเร่งด่วน ไปทำงานงานได้ 3-4 วันก็มาถูกตำรวจจับกุมตัว  ตนนั้นขอปฏิเสธว่าตนไม่ได้ทำร้ายผู้หญิงและไม่ได้เข้าไปข่มขืนแต่เข้าไปเพราะไปตรวจสอบตามคำสั่งของ ผจก.แมนชั่น และตนเป็นคนโทรแจ้งตำรวจเอง ถ้าตนทำผิดตนจะโทรแจ้งตำรวจทำไม

จากประวัติผู้ก่อเหตุมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนัก เคยมีประวัติตามเก็บเงินกู้แต่ไม่นำเงินส่งให้นายจ้าง และมีประวัติลวนลามผู้หญิงบ่อยครั้ง ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า หากมีใครเป็นผู้เสียหาย ประสงค์ตะดำเนินคดีให้มาแจ้งได้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์