ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปิดล้อมคนขับเก๋งชนรถคนอื่นแล้วหลบหนีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเรียกให้ชายคนขับรถเก๋งฮ้อนด้าสีดำ เปิดประตูออกมามอบตัว แต่คนขับรายนี้ กลับไม่ยอมมอบตัวแต่โดยดี และเอะอะโวยวาย แถมยังต่อสู้ขัดขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายและพลเมืองดีต้องช่วยกันล็อกตัว เพื่อจะใส่กุญแจมือ แต่ก็ไม่ยอม สุดท้ายมีการควบคุมตัวชายคนดังกล่าวข้ามถนนเพื่อจะนำตัวไปยังตู้จราจร ระหว่างนั้น ชายคนขับรายนี้กลับต่อสู้และพยายามชกหน้าตำรวจ ทำให้ต้องใช้ยุทธวิธีควบคุมตัวอีกครั้ง  สุดท้ายใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้สำเร็จ เล่นเอาเจ้าหน้าที่เหงื่อตกไปตามๆกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจุดนี้เกิดขึ้นถนนเทพารักษ์ ใกล้สี่แยกเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

จากการสอบถามเรื่องราวดังกล่าวทราบว่า  ทราบชื่อชายคนดังกล่าวคือ นายมานิต อายุ 50 ปี ขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน 5 ขฆ 6150 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถคันอื่นๆ ที่บนถนนเทพารักษ์ กม.17 จำนวน 2 คัน จากนั้นได้ขับรถยนต์เก๋งหลบหนีเข้าปั้มน้ำมัน  และได้ถอยชนรถในปั๊มอีก ต่อมาคนขับชายคนดังกล่าว ได้ขับรถหนีไปบริเวณถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางบ่อ และมาจนมุม ขณะรถกำลังจอดติดไฟแดงเคหะบางพลี ซึ่งเจ้าหน้าที่ไล่ล่าติดตามตัว กระทั่งชายคนดังกล่าวซึ่งนั่งอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่พยายามเจรจา ให้ชายคนดังกล่าวลงมา เพื่อเรียกประกันมาคุยกับผู้เสียหายที่ถูกชน แต่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่ยอม กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกแรงนำตัวออกมาจากรถแต่ พบว่าชายคนดังกล่าวใบหน้าแดงกล่ำมีกลิ่นคล้ายเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง และโวยวาย เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัว

โดย เจ้าหน้าที่จึงจำต้องใส่กุญแจมือ แต่ใส่ได้เพียงข้างเดียว ล็อคตัวไว้ เพื่อป้องกันการหลบหนี และเป็นการระงับเหตุเบื้องต้น ซึ่งชายคนดังกล่าวพยายามขัดขืนและหันมาด่าทอ จนเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ และพาตัวเข้าไปที่ บริเวณข้างฟุตบาท ชายคนดังกล่าวยังคงเอะอะโวยวาย และพยายามจะใช้มือทำร้ายตำรวจอีก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีแถวนั้น  ช่วยกันอุ้มชายคนดังกล่าวไปไว้ที่ป้อมตำรวจจราจรของ สภ.บางเสาธง เมื่อมาถึง ตำรวจจึงบอกว่าดื่มน้ำเย็นไหม แต่ชายคนนี้พยามยืนขึ้นชี้หน้า และปรี่จะชกตำรวจ จนตำรวจต้องจับมือไพล่หลังและใส่กุญแจมือทั้งสองข้าง

ด้าน นาย ตาล เจ้าหน้าที่อาสาสมัครศิวะ อายุ 31 ปี พลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ บอกว่า ขณะที่ตนเองขับรถบนถนนเทพารักษ์ สังเกตมีรถผู้ก่อเหตุและรถชาวบ้านขับขี่ไล่ตามกันด้วยความเร็ว ตนคิดว่าแข่งกันมา จนตามมาถึงสี่แยกจึงทราบเรื่องและมีการตะโกนจากผู้เสียหายให้ช่วยจับคนขับรายนี้ตนจึงเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่

จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อเหตุในสองพื้นที่ ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี ได้ควบคุมตัว นายมานิต ไปทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่าพุ่งสูงถึง 368 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น

ขณะที่ พ.ต.อ.โสภณ  มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงแม้ว่าต้นเรื่องจะเกิดขึ้นที่ สภ.บางพลี แต่ผู้ก่อเหตุขับรถเข้าเขตบางเสาธงและยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะจับกุม ทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจ ตนจึงสั่งให้รับตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่ม จาก สภ.บางพลี โดยจะแจ้งข้อหา เมาแล้วขับ  , ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ , ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และทำร้ายร่างกายและจิตใจของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติงาน