วันนี้(29มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจพื้นที่ต่างๆในเขตอำเภอสำโรงทาบ อำเภอสังขะ และอำเภอรัตนบุรี อ.ศีขรภูมิ  จ.สุรินทร์  หลังจากฝนทิ้งช่วงมานานเป็นเดือน และพบว่า ต้นข้าวที่ชาวนาหว่านไว้ ต้นข้าวเริ่มเหี่ยวเฉาเพราะ ต้นข้าวขาดน้ำมาเลี้ยง  

และได้พบคุณยายวัย65 ปีกำลัง ตักน้ำใส่ถังแกลลอน  นำมารดต้นข้าวที่กำลัวเหี่ยวเฉา แห้งตายภายในพื้นที่  ต.ช่างปี่  อ.ศีขรภูมิ   จ.สุรินทร์  ทราบชื่อคุณยายบรรจงมีศรี  อายุ65ปี  บ้านเลขที่54ม.2  บ้านกระโดนค้อ  ต.ช่างปี่  อ.ศีขรภูมิ  จ.สุรินทร์

คุณยายบรรจงบอกว่าตนเองทำนาจำนวน  20  ไร่ และในช่วงที่ผ่านมา  ฝนทิ้งช่วงมาประมาณ1เดือนกว่าทำให้ข้าวกล้า  ภายในพื้นที่นาของตนเอง  มีผลกระทบข้าวกล้าที่หว่านเอาไว้ เริ่มเหี่ยวล้มตายเกือบหมดตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร  เพราะปีนี้ข้าวกล้าตลอดจนเมล็ดพันธุ์ข้าวก็ไม่มีและค่าปุ๋ยก็แพงและเงินที่รัฐบาลให้มาไร่ละ500บาทก็คงจะไม่พอค่าปุ๋ยค่าแรงตลอดจนน้ำไม่มีจะทำนาและข้าวในนาที่หว่านลงไปไม่รู้จะได้ผลหรือไม่ก็ยังไม่รู้

 

และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เกิดมีฝนตกลงมาพอมีน้ำเข้ามาช่วยพอประปรายตนเองก็ถือโอกาสนำเสียมมาขุดเอาต้นข้าวที่ยังไม่ตายนำมาขยายปลูกตรงที่ว่างเปล่าหลังจากนั้นก็ไปตักเอาน้ำที่ยังพอมีในท้องนานำมารดเอาไว้เพื่อไม่ให้ข้าวที่นำมาปักดำตายถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็คงจะไม่มีข้าวเหลือในนาอย่างแน่นอน  ยายบรรจง  กล่าว

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจในพื้นที่อ.สำโรงทาบ อ.รัตนบุรี.อ.สนม และ อ.ศีขรภูมิ เพิ่มเติม ก็พบว่าหลังจากที่ฝนทิ้งช่วงและมีฝนตกลงเล็กน้อย มาเพียงไม่กี่วันก็ทำให้พื้นที่นาแห้งแล้งกลับมาเหมือนเดิม  จึงวอนให้ทางรัฐบาลหาทางแก้ไขให้กับชาวบ้านด้วย