นายกฯ เศรษฐา สั่งการทุกหน่วยงานร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งเมืองอุบล

วันที่ 29 มิ.ย.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการพร้อมติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายจักริน ประเสริฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 นายเศรษฐพงศ์ ภิงคารวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 7 นายสัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุบลราชธานี และผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่และบรรยายสรุปการดำเนินงาน

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ รวมไปถึงสถานการณ์น้ำท่าอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลมาวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ มีการจัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำชี-มูล อย่างเชื่อมโยงกัน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังได้พิจารณาพร่องน้ำในลำน้ำชี-มูล รวมไปถึงพื้นที่แก้มลิงและพื้นที่ลุ่มต่ำ  โดยไม่กระทบต่อกิจกรรมการใช้น้ำ เพื่อรองรับปริมาณฝนและช่วยลดภาระการระบายน้ำในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะมีปริมาณน้ำมากขึ้น รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือประจำจุดเสี่ยงเพื่อให้สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที ตลอดจนตรวจสอบอาคารชลประทานและหมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง และปฏิบัติตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 67 ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด  เพื่อให้สามารถป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีแผนการพัฒนาลำห้วยผับและลำน้ำใกล้เคียง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการระบายน้ำในเขตพื้นที่อำเภอวารินชำราบ รวมทั้งสิ้น 16 โครงการ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ประมาณ 1.74 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์กว่า 6,250 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง และช่วยลดระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยผับช่วงฤดูน้ำหลากได้ประมาณ 20-30 เซนติเมตร ลดระยะเวลาน้ำท่วมขังในพื้นที่จากเดิม 60 วัน เหลือ 30 วัน  สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้เร็วยิ่งขึ้น