ป.ป.ส. รับมอบตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ หลบหนีหมายจับ ไปกบดานที่ประเทศเพื่อนบ้านยังสร้างเครือข่ายต่อ สุดท้ายไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ไทยประสาน เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว จับกุมตัวส่งให้กับฝ่ายไทย ตามโครงการความร่วมมือ ด้านการปราบปรามยาเสพติดอาชญากรรมข้ามชาติไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน


   เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ณ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย -ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์  หลักบุญ  เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) มอบหมายให้ นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ปปส.ภาค 4 ร่วมกับ พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จว.หนองคาย,พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จว.หนองคาย,พ.อ.สุภัทร  ชูตินันท์ รอง ผบ.บก.ควบคุมที่ 2 กกล.สุรศักดิ์มนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  รับมอบตัว นายปราโมทย์ (สงวนนามสกุล)ผู้อายุ 29 ปี ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี จาก พลตรีคำกิ่ง  ผุยหล้ามะนีวง  รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ หัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ  สปป. ลาว

    สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมตำรวจสกัดกั้นและต้านยาเสพติด กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว ได้จับกุม นายปราโมทย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 53/2567 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 และหมายจับที่ จ.55/2567 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ในความผิดฐาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ณ บ้านพักในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว 
 

   และวันนี้ (28 มิถุนายน 2567) ทางการ สปป.ลาว ได้ส่งมอบตัวนายปราโมทย์ฯ ผู้ต้องหา ให้แก่ทางการไทย ณ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
     

    ด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบทราบว่า นายปราโมทย์ ฯ ผู้ต้องหา ได้หลบหนีหมายจับไปกบดานและสร้างเครือข่ายอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และยังคงมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดหาและติดต่อนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ผ่านช่องทางต่างๆ ตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนละประมาณ 2,000,000 – 5,000,000 เม็ด นอกจากนี้ยังมีการลักลอบนำเข้า คอลลาเจน คีตามีน เอ็กซ์ตาซี โดยนำมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.นครราชสีมา รวมทั้งพื้นที่ตอนในภาคกลาง และภาคใต้
       

การส่งมอบตัวผู้ต้องหาครั้งนี้ได้รับการประสานงานจากสำนักงาน ป.ป.ส. อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติด ณ กรุงเวียงจันทน์ ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี และตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย จึงประสานงาน กับสำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อตรวจตราและควบคุมยาเสพติด กรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว และสามารถจับกุม นายปราโมทย์ฯ ผู้ต้องหาได้ ดังกล่าว 
     

นายคณิศร ภาพีรนนท์  กล่าวว่า “นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด  เน้นเรื่องการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ รวมทั้งการสืบสวน ปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด มุ่งเน้นการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการค้าที่มีโครงสร้าง การค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ได้มีประกาศพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามมาตรา 5(10) แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ให้ มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ไม่ให้เข้ามาใน ประเทศไทย และให้ความสำคัญกับการจับกุมผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีหมายจับ และหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีพฤติการณ์เป็นผู้สั่งการ เป็นตัวการจัดหายาเสพติด และจัดหาผู้ลำเลียงยาเสพติด ลักลอบนำเข้ายาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จึงได้ประสานความร่วมมือ ระหว่างประเทศเพื่อดำเนินการต่อผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดียาเสพติดตามหมายจับของศาลไทย โดยบูรณาการ ความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพ กับประเทศเพื่อนบ้าน” 
           

"การส่งตัวนักค้ายาเสพติดข้ามแดนครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบาย ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และแผนระดับชาติว่าด้วยการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มีหนึ่งในจุดเน้นคือ การสืบสวน ปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด มุ่งเน้นการสืบสวนปราบปรามเครือข่ายการค้าที่มีโครงสร้างการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน พร้อมให้ความสำคัญกับการจับกุมผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีหมายจับและหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน"
       

โดย นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดการดำเนินงานการป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมสั่งการให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานบูรณาการเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใน 90 วัน และกำชับให้ ผู้ว่าราชการ จังหวัดทุกจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เด็ดขาด และเห็นผลการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้ประชาชนฤาษีลภ-มนเดช-โภควินทร์ -จังหวัดหนองคาย