‘ภคอร’ นั่งหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แทน ‘พี่เต้’ เดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.เงินผดุงเกียรติกลับเข้าสภา

‘ภคอร’ นั่งหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แทน ‘พี่เต้’ ที่ลาออกไปเป็นที่ปรึกษาหัวหน้า ปชป. - ประกาศเร่งให้รัฐบาลผลักดันร่าง พ.ร.บ.เงินผดุงเกียรติกลับเข้าสภา พร้อมแสดงความเห็นขอให้หยุดด้อยค่าทหาร และคัดค้านการให้ต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้ 75% จาก 49% และเช่าที่ดินได้ 99 ปี

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคไทยศรีวิไลย์  มีการจัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2567 ณ  มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ ต.สี่คิ้ว อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา  เพื่อดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ ชุดใหม่  เนื่องจาก นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  อดีต หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคไปเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 และ ไปดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2567

       ทั้งนี้มติที่ประชุม ได้เลือกตั้ง คณะกรรมการบริหารพรรคไทยศรีวิไลย์ ชุดใหม่ มีรายชื่อ ดังนี้

1.นางสาว ภคอร จันทรคณา  หัวหน้าพรรค

2.พลโท  อัศวิน รัชฏานนท์   รองหัวหน้าพรรค

3.นายณรงค์ศักดิ์  เจียมกิจวัฒนา  รองหัวหน้าพรรค

4.นายอดิศร สังข์จันทร์   เลขาธิการพรรค

5.นายสรกฤช  จันทรคณา  โฆษกพรรค

6.นายอนุรักษ์  อมรเมตตาจิตต์  นายทะเบียนพรรค

7.นางสาวชุติมา โชคอารีย์   เหรัญญิกพรรค

8.นางสาวกฤษยากร สรชัย  รองเลขาธิการพรรค

9.นางสาวอลิศรา    กรีสุระเดช กรรมการบริการพรรค

       โดย น.ส.ภคอร  ได้กล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ คนใหม่ว่า ก่อนอื่นดิฉันต้องขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคทุกท่านที่ไว้วางใจโหวตให้เป็นหัวหน้าพรรค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาดิฉันในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคคนนึงได้ทำภารกิจต่างๆมากมายกับทางอดีต สส.เต้ และ กรรมการชุดก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปี 61 ทั้งช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคต่างๆ งานในสภาในฐานะผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สส. งานการเมืองในฐานะ สส. ซึ่งภารกิจปัจจุบันที่ยังคงต้องตามกันต่อคือตามเรื่องอาทิ ร่างพรบ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ...(เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก ผู้ถือบัตร ชั้น 2-3-4 เดือนละ3,000 บาท) รอบ 2 เสนอโดย พี่น้องทหารผ่านศึก กว่า 1 หมื่นรายชื่อ ได้ผ่านขั้นตอนการประชาพิจารณ์ ของ สภาผู้แทนราษฏรไปแล้ว เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2567 มีผู้สนับสนุนความเห็นกว่า 126,044 ความเห็น เป็น พรบ.การเงิน ขณะนี้ อยู่ที่โต๊ะของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ต้องพิจารณารับรอง เพราะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินประมาณปีละ 25,000 ล้านบาท/ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาก็มีตัวแทนพี่น้องทหารผ่านศึก เหล่า ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ กว่า 1,400 คน ที่เดินทางมาจากทุกจังหวัด มาที่ สภาผู้แทนราษฏร และ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาตามทวงถาม นายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อใดจะเซ็นรับรองผ่าน ร่างแก้ไข พรบ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ...(เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก ผู้ถือบัตร ชั้น 2-3-4 เดือนละ 3,000 บาท) กลับเข้า สภาผู้แทนราษฏร เพื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรเสียที 

         “พี่น้องทหารผ่านศึกเหล่านี้ มีบุญคุณต่อประชาชนคนไทย ยามหนุ่มพวกเขาเหล่านั้นเสียสละชีวิต เสียสละร่างกาย เสียความสุขส่วนตัว คอยดูแลผืนแผ่นดินไทย คอยต่อสู้กับข้าศึก ไม่ว่าจะสงครามเวียดนาม สงครามร่มเกล้า สงครามกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ฯ  คอยดูแลพื้นที่เสี่ยงภัยจุดต่างๆให้ ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข ปัจจุบันพวกเขาไม่มีเงินบำนาญ มีแค่เงินค่ารถปีละ 1,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล ส่วนเกินปีละ 4,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพในวัยสูงอายุ และความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการให้รัฐบาลใช้ภาษีของประชาชนดูแลชีวิตของเหล่าทหารผ่านศึก หรือ เรียกว่า บรรพบุรุษที่ยังมีลมหายใจ เพราะถือว่าพี่น้องทหารผ่านศึกเป็นผู้มีบุญคุณต่อผืนแผ่นดินไทย ประชาชนไทย” น.ส.ภคอรกล่าว

          นางสาว ภคอร กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลนี้ต้องหยุดด้อยค่าทหาร หยุดลดกำลังทหาร หยุดเหยียดหยามทหาร หยุดตัดงบทหาร หยุดทำให้ประเทศอ่อนแอ  เมื่อใดทหารอ่อนแอ ประเทศจะอ่อนแอ จะถูกเอาเปรียบจากประเทศเพื่อนบ้านมาขอแบ่งเอาทรัพยากรใต้ท้องทะเล อาทิ ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ในพื้นที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ร่วมด้วยกว่า 26,000 ตร.กม. สุดท้ายสถาบันพระมหากษัตริย์จะถูกทำลาย ประเทศไทยจะล่มสลาย ยังไม่รวมเรื่องหลักเกณฑ์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิคนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็น 75% ที่มีคำสั่งตาม มติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 18 มิถุนายน 2567 จากทำเนียบรัฐบาลมีหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 20 มิ.67 เรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการพิจารณาทบทวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ.2562  โดยกำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิ์มีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี ซึ่งตนไม่อยากให้ทางครม.ทบทวนใหม่เพราะเกรงว่าอาจจะเป็นประเด็นการขายชาติ พร้อมเสนอแนะอย่าไปเชื่อพวกนายหน้าข้ามชาติที่มีสมุนเป็นคนไทยขายชาติซึ่งไปให้ข้อมูลกับทางราชการว่าประเทศเพื่อนบ้านเรามีการปล่อยให้เช่าที่ดิน 99 ปี นี่คือเรื่องเท็จ สปป.ลาวเคยให้เช่าที่ดิน 99 ปีเหมือนกัน เดี๋ยวนี้เค้าก็เลิกกันหมด  ประเทศกัมพูชาก็เคยปล่อยเช่าเหมือนกันแต่เป็นที่ดินของทางราชการเท่านั้น เดี๋ยวนี้ก็ลดระยะเวลา ที่ประเทศเวียดนามเคยปล่อยเช่า 70 ปี เฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้นไปเช่าที่อื่นไม่ได้คะ ส่วนประเทศมาเลเซียและสิงค์โปร์ก็ให้เช่า 99 ปีก็จริงตามกฎหมายอังกฤษแต่ในความเป็นจริงแล้ว  อย่างในสิงค์โปร์จะเช่าที่ดิน 99 ปี เค้าให้เช่าเฉพาะที่ดินที่ทางราชการจัดให้เป็นแปลงๆ และคนที่เช่าได้เป็นหลักคือนายทุนสิงค์โปเอง ไม่ใช่ชาวต่างชาติ กรุณาอย่าไปเชื่อพวกขายชาติเด็ดขาด

          ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับประวัติ นางสาว ภคอร จันทรคณา ปัจจุบัน เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2524 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เป็นบุตรสาวของ พันตำรวจโท บุญยิ่ง จันทรคณา (เสียชีวิต) และ นางนัยนา ชีวานันท์ อดีตนางเอกดาราภาพยนตร์ชื่อดังของเมืองไทย ทั้งนี้ นางสาวภคอร เคยจดทะเบียนสมรส กับ นายมงคลกิตติ สุขสินธารานนท์ ปี 2553-2561 ส่วนประวัติทางการศึกษา จบปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ปริญญาโท สาขาวิชาการสอนภาษาอังกฤษ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และปัจจุบัน กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก ด้านนโยบายสาธารณะและการจัดการภาครัฐ มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนประวัติการทำงานก็ผ่านงานในวงการบันเทิงมาแล้ว เช่น นางเอกละครพื้นบ้านเสาร์-อาทิตย์ พระสุธนมโนราห์, ยอพระกลิ่น ทางช่อง 7 และ หลงไฟ ทาง ITV เคยเข้าประกวดนางสาวไทย เข้ารอบ 20 คน สุดท้าย รุ่นเดียวกับ นางสาวจิรกิติยา (ชาลิสา) บุญครองทรัพย์ เมื่อปี 2546 นอกจากนี้  ยังเคยเป็นแอร์โฮสเตส สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ส, พนักงานไกด์, อาจารย์พิเศษสอนวิชาภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยต่างๆ สำหรับงานในทางการเมือง นางสาวภคอร เคยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคไทยศรีวิไลย์ อนุกรรมาธิการตรวจสอบทุจริตด้านการคมนาคม คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา อดีต ที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปของหน่วยงานภาครัฐในการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ อดีต ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านการเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร และตำแหน่งอื่นๆ ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในการประชุมใหญ่สามัญของพรรคฯ ในครั้งนี้