“สมศักดิ์” ยกคณะ ก.สาธารณสุข ลุย “นครสวรรค์-พิจิตร” พาหมอไปหาประชาชน ปลื้ม มีประชาชนใช้บริการรวมแล้ว 1 ล้านคน พร้อมเชิญชวน อสม.แสดงความคิดเห็น ร่างกฎหมาย อสม. หลังเปิดฟังความเห็นวันแรก แย้ม มีสิทธิประโยชน์เพียบ

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดนครสวรรค์ โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ พญ.วิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 3 นายทรงศักดิ์ ส่งเสริมอุดมชัย สส.นครสวรรค์ พรรคเพื่อไทย นายประสาท ตันประเสริฐ สส.นครสวรรค์ พรรคชาติพัฒนากล้า นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย และ อสม. เข้าร่วม ที่โรงพยาบาลลาดยาว ตำบลสระแก้ว อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า โครงการพาหมอไปหาประชาชนฯ เป็นการพาแพทย์เฉพาะทาง จากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ไปรักษาตามชุมชน ช่วยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงบริการทางการแพทย์ และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล โดยที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินโครงการพาหมอไปหาประชาชนไปแล้ว 73 ครั้ง 65 จังหวัด โดยมีประชาชนเข้ารับบริการมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนสำหรับงานที่โรงพยาบาลลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์วันนี้ มีคลินิกมาร่วมให้บริการจำนวน 21 คลินิก มีคลินิกคัดกรองมะเร็งต่างๆ คลินิกตัดรองเท้าเบาหวาน ที่ตนเห็นว่า เป็นสาเหตุที่คนนครสวรรค์มาหาหมอ ที่โรงพยาบาลบ่อยๆ รวมถึงคลินิกแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก (คลินิกฝังเข็ม) มาเปิดให้บริการด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ คาดว่า จะมีคนมารับบริการ 1,500 คน ช่วยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่นี้ ไม่ต้องเดินทางไกล ไปถึงโรงพยาบาลในเมือง โดยตนต้องขอขอบคุณผู้บริหาร และบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคีเครือข่าย รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่ร่วมกันผลักดันโครงการ ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในครั้งนี้ โดยโครงการพาหมอไปหาประชาชน เริ่มแรก มี 72 ครั้ง แต่ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 74 แล้ว ซึ่งเกินมาจากที่ตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากการดำเนินการทั่วประเทศ ครบ 72 ครั้ง มีประชาชนเรียกร้องให้จัดโครงการพาหมอไปหาประชาชนเพิ่ม กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ดำเนินการเพิ่มเป็น 94 ครั้ง

“ผมฟัง สส.ทรงศักดิ์ ทราบว่า พี่น้องชาวนครสวรรค์ อยากให้จัดกิจกรรมอีก ผมจึงมาเยี่ยมเยียนประชาชน และจัดกิจกรรมพาหมอไปหาประชาชนในวันนี้ โดยจังหวัดนครสวรรค์ ถือเป็นจังหวัดใหญ่ มี สส. 6 คน และมี อสม.ที่เข้มแข็ง ซึ่งผมกำลังทำกฎหมายให้ อสม. โดยวันนี้เป็นวันแรก ที่นำร่างกฎหมายรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์ คือ เว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย ซึ่ง อสม.ทุกคนควรไปแสดงความคิดเห็นว่า เห็นชอบหรือไม่ โดยจะมีการนำความคิดเห็นทั้งหมด มารวมและพิจารณากันต่อไป” รมว.สาธารณสุข กล่าว

โดยภายหลังเปิดงาน นายสมศักดิ์ ยังได้มอบกล่องชุดดูแลสุขภาพเบื้องต้นให้กับ อสม. พร้อมมอบฟันเทียมแก่ผู้สูงอายุ จำนวน 5 ราย และมอบแว่นตาแก่ผู้ที่มีปัญหาด้านสายตา จำนวน 5 ราย อีกด้วย

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดพิจิตร เพื่อเปิดโครงการพาหมอไปหาประชาชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร โดยมี นายอดิเทพ กมลเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต สส.พิจิตร และ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมต้อนรับด้วย

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จังหวัดพิจิตร มีคลินิกให้บริการ 12 คลินิก โดยมีคลินิกคัดกรองโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่เป็นปัญหาสำคัญของพี่น้องชาวพิจิตร ถึง 4 คลินิก ได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดี โดยคาดการณ์ว่า จะมีประชาชนเข้ารับบริการ 2,200 คน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าเดินทาง ค่าบริการคลินิกเฉพาะทางของประชาชน กว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยในวันนี้ มี อสม.เดินทางมาร่วมด้วย ซึ่งถือว่า มีบทบาทสำคัญในการช่วยดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน ตนจึงได้ทำกฎหมายเพื่อความมั่นคงให้ อสม. โดยมีสิทธิประโยชน์ เช่น สิทธิการรวมกลุ่ม สิทธิช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล สิทธิเบิกค่าใช้จ่ายสำหรับปฎิบัติหน้าที่ สิทธิรับเงินค่าป่วยการ อสม.และบุตร มีสิทธิได้รับการศึกษาในสถาบันของกระทรวง และสิทธิประโยชน์จากกองทุน บัตร Smart card ตนจึงขอเชิญชวนให้ อสม.ทุกคนไปช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าอยากยกระดับอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ยังได้เดินทางต่อไปยังวัดทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เพื่อเปิดสถานชีวาภิบาล และปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติด้วย