เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 มิ.ย. นายเศรษฐา และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตํารวจแห่งชาติ พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ร่วมด้วย
จากนั้นเวลา 13.55 น. นายกฯ เดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน จท 101 กรุงเทพมหานคร มายังวัดโกศลรังสฤษฏ์ ตำบลอุ่มเม้า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อตรวจเยี่ยมการศึกษาต้นแบบการบูรณาการจัดการปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด “โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตำบลอุ่มเม้า”
โดยนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดและข้าราชการให้การต้อนรับพร้อม รายงานถึงการดำเนินการบำบัดผู้เสพ ซึ่งอำเภอธวัชบุรี น่าจะเป็นอำเภอต้นแบบที่จะดำเนินการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ทำโครงการตั้งชุดปฏิบัติการประจำตำบล เพื่อมาเอกซเรย์ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ติด ผู้ค้า ซึ่งพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดขึ้นไปเกิน 1,600 คน ส่วนผู้ค้า 60 กว่าราย จึงต้องบูรณาการกับตำรวจ ทหาร พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และอาสาสมัครแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง พร้อมกับระดมทุกหน่วยงาน บูรณาการพัฒนาตำบล หาอาชีพให้กับเกษตรกร และการจ้างแรงงานในทุกเรื่อง
ทั้งนี้การแก้ไขปัญหายาเสพติดที่อำเภอธวัชบุรีในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา หลังจากวันที่ 30 มิ.ย. อาจจะเรียกได้ว่าอำเภอธวัชบุรีจะเป็นอำเภอที่ปลอดจากผู้เสพ ผู้ติดยาอย่างแท้จริง ยืนยันว่าเราจะทำการรักษาความเป็นอำเภอปลอดยาเสพติดอย่างนี้ไว้ตลอดไป
ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า ตนลงพื้นที่อำเภอนี้ มีจุดประสงค์เดียว มาดูเรื่องยาเสพติด ฉะนั้นรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เจ้าหน้าที่รัฐทุกส่วนจะมาช่วยกันดูแลปัญหานี้ เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยมาโดยตลอด หลายท่านในที่นี้เคยหลงผิดเคยเสพยามา แต่ไม่เป็นอะไร รัฐบาลให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ บำบัดรักษา หาอาชีพให้ เพื่อให้พวกท่านกลับไปสู่สังคมที่มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้ โดยธำรงไว้ซึ่งความปลอดภัยจากยาเสพติด
นายเศรษฐา กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศแล้วภายในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ จะไม่มียาเสพติด เป็นพื้นที่สีขาว ซึ่งจากการตรวจคัดกรองยังพบว่ามีอยู่ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงที่จะเป็นอำเภอสีขาวได้ แต่เรามีเป้าหมายหลัก ภายในสิ้นเดือน ก.ย.ปีนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดทั้งจังหวัดจะเป็นพื้นที่จังหวัดสีขาว ปลอดยาเสพติด เชื่อว่าทุกคนและหน่วยงานรัฐจะให้ความสำคัญ และดูแลประชาชน ตั้งแต่ผู้เสพให้หายขาด และไปประกอบอาชีพทำมาหากินได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ขอเป็นกำลังใจให้พวกท่านทุกคนที่เราเคยทำผิดกันมา แต่วันนี้เราปลอดยาเสพติดแล้ว มาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านประกอบอาชีพกลับสู่ครอบครัว ทำมาหากินอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่กลับไปยุ่งกับยาเสพติดอีก ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ทำมาจนถึงวันที่ 28 มิ.ย. อีกนิดเดียวจะสิ้นเดือนมิ.ย.แล้ว หวังจะทำกันต่อไปจนประสบความสำเร็จ