ดนตรี /รุ่งฟ้า ลิ้มหัสนัยกุล
รู้จักหญิงสาวนามสกุลคุ้นหูคนนี้เมื่อสามสี่ปีมาแล้ว ตอนนั้น เธอเพิ่งอายุ 20 แต่ก็มีอีพี.ออกมาให้ฟังกัน 2 ชุด คือ Minor (2020) และ This is What It Feel Like (2021) มาในทางเบดรูม-ป๊อปเจือความหม่นเศร้าอยู่ในน้ำเสียงและเรื่องเล่า ได้เสียงตอบรับไปในทางดีทีเดียว เช่นเดียวกับทัวร์เล็กๆของเธอในหลายเมืองหลายประเทศ เรียกว่าเป็นการเปิดตัวได้สวยงาม
ถัดมาอีกสองปีหลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งในห้องบันทึกเสียงและบนเวที กราซี อับรามส์ ก็พร้อมมีอัลบั้มเต็มชุดแรก Good Riddance เมื่อต้นปีที่แล้ว งานที่ส่งให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล แกรมมี่ สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และได้เล่นเปิดให้กับ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ใน The Eras Tour ระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม 2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอยอมรับว่าเป็นจุดกำเนิดอัลบั้มใหม่ The Secret of Us ที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ฟังเต็มๆเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมานี้เอง
สุ้มเสียงหม่นเศร้ายังพอมีให้รู้สึกได้ในงานชุดใหม่ แต่ที่แปลกไปคือความสว่างโดยรวมของตัวอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องหรือดนตรีที่เจือความเป็นร็อกเข้ามามากขึ้น ส่วนเรื่องเล่านั้นก็มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด มุมมองในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนซับซ้อนขึ้น และ “จริง” มากขึ้น บอกเล่าความขมขื่นเจ็บปวดจากความรักที่ล้มเหลวครั้งก่อนในท่วงทีที่เข้าอกเข้าใจชีวิต และพร้อมจะก้าวต่อไปข้างหน้าแล้ว
อับรามส์ ยังคงร่วมงานกับ อารอน เดสส์เนอร์ นักดนตรี/นักแต่งเพลง/โปรดิวเซอร์วง เดอะ เนชันแนล ที่ดูแลกันมาตั้งแต่อัลบั้มที่แล้ว และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง-แบบที่ปฏิเสธไม่ได้-ในการทำให้อัลบั้มนี้ของ อับรามส์ มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับ Folklore และ Evermore ของ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ก็เป็นเพราะ เดสส์เนอร์ ร่วมโปรดิวซ์ในสองชุดนั้น สอดคล้องกับตัว อับรามส์ เองที่มอง สวิฟท์ เป็นไอดอล ทว่านั่นก็เป็นแค่กลิ่น เพราะถึงจะเป็นรุ่นน้อง เป็นคนหน้าใหม่ แต่ อับรามส์ ก็มีลายเซ็นทึ่คนฟังจดจำ โดยเฉพาะสีหม่นๆ เศร้าๆ ในสำเนียงการร้องและเรื่องราวที่เธอเล่า-ที่ผูกโยงถึงคนฟังรุ่นราวคราวเดียวกันได้ไม่ยากเย็น
ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ตัดออกมาเป็นซิงเกิ้ลทั้งสองเพลงอย่าง “Risk” ที่สนุกด้วยจังหวะ เมโลดี้ติดหู มีสัมผัสป็อปชัดเจน และมีลูกดุดันให้เพลงมีสีสันหนักขึ้นนิด หรือ “Close to You” เพลงเก่าสมัยเธอยังวัยรุ่นที่ปล่อยออกมาให้ฟังกันตั้งแต่ปี 2017 แต่ไม่รวมอยู่ในงานชุดไหนมาก่อน เพราะเธอเห็นว่าแนวทางดนตรีไม่ค่อยลงตัวกับที่เธอเป็น ณ เวลานั้น แต่กับตอนนี้ เพลงซินธ์-ป็อปที่ติดหูอย่างมากเพลงนี้ก็ปิดอัลบั้มชุดนี้ได้เหมาะเจาะกลมกลืน
นอกจากป็อปและร็อคแล้ว อับรามส์ ยังเติมกลิ่นคันทรี่และโฟล์คลงไปอ่อนๆ บางๆ ในบางเพลงได้สวย อย่าง “Blowing Smoke”, “I Love You, I’m Sorry”, “I Knew It, I Know You” และ “us.” ที่ได้ เทย์เลอร์ สวิฟท์ มาสอดเสียงร้องของเธอให้ประสานไปกับเสียงร้องของรุ่นน้องได้นวลเนียน ส่วน “Tough Love” ก็เป็นโฟล์คใหม่ที่คึกคัก เปี่ยมไปด้วยพลังและมีชีวิตชีวา
จากเด็กสาวที่มองเรื่องราวรอบตัวด้วยความรู้สึกหม่นหมองซึมเซา วันนี้ กราซี อับรามส์ เติบโตเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่เห็นโลกในมุมจริงมากขึ้น และถ่ายทอดมันออกมาในสุ้มเสียงที่ฟังแล้วสัมผัสได้ถึงความหวัง กับดนตรีลูกผสมโฟล์ค/คันทรี่กับป๊อปสมัยใหม่ได้ลงตัว ผ่านเสียงร้องที่มีน้ำมีนวล เข้มข้นขึ้น และมีอารมณ์ลุ่มลึกกว่าเดิม
ขอบคุณภาพจาก Universal Music Thailand