วันที่ 27 มิ.ย.67 จากกรณีที่มีการตรวจพบว่าได้มีการลักลอบเล่นการพนันผิดกฎหมายในพื้นที่อำเภอทับปุด จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เองหวั่นเกรงว่าจะเป็นต้นเหตุของปัญหาทางสังคมอื่นๆและเกิดอาชญากรรมขึ้นได้นั้น ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองพร้อมตำรวจได้บุกทลายแหล่งลักลอบเล่นการพนันและสามารถยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้กระทำผิดซึ่งหน้าทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านอำเภอทับปุด จังหวัดพังงา พร้อมชาวบ้านกว่า 100 คน จึงได้เข้ายื่นหนังสือผ่านนายอำเภอทับปุด เพื่อยื่นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และอธิบดีกรมการปกครอง เพื่อประกาศเจตนารมณ์ว่าชาวอำเภอทับปุดไม่ต้องการให้มีสถานที่เล่นพนันในพื้นที่และขอให้ปราบปรามอย่างจริงจัง
ล่าสุด นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมนายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พล.ต.ต.สมคะเน โพธิ์ศรี ผบก.ภ.จว.พังงา และนายบัญชา ธนูอินทร์ ปลัดจังหวัดพังงา ร่วมกันแถลงเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังขา จึงได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมเน้นย้ำชัดเจนว่าจังหวัดพังงาไม่มีบ่อนการพนันผิดกฏหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้กล่าวว่า ทางจังหวัดเองไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และนโยบายของจังหวัดพังงาซึ่งได้ให้ความสำคัญในการปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ผ่านการปฏิบัติร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาโดยตลอด ซึ่งได้กำชับไปยังทุกอำเภอและทุกท้องที่ รวมทั้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนทุกแห่ง ให้กวดขัน เข้มงวด ปราบปรามเรื่องเหล่านี้ โดยจะมีการติดตามการปฏิบัติงานอยู่เสมอ ส่วนที่มีการแอบอ้างว่ามีการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงนั้น ในเรื่องนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงากล่าวว่า จากการจับกุมลักลอบเล่ยการพนันในลักษณะนี้ จะมีการแอบอ้างทำนองนี้อยู่ตลอดเวลา หากเจ้าพนักงานจับกุมสามารถสอบสวนขยายผล และมีหลักฐานที่เชื่อว่ามีมูลประการใด ก็ให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาทราบโดยด่วน
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา กล่าว เบื้องต้นพบว่าเป็นการลักลอบเล่นในพื้นที่ ยังไม่ชัดเจนว่าเจ้ามือที่มาแอบเปิดนั้นมาจากที่ไหน จากการจับกุมตรวจพบแค่อุปกรณ์การเล่น ไม่พบผู้ลักลอบเล่นการพนันแต่อย่างใด จึงไม่สามารถระบุว่าเป็นเจ้ามือมาจากที่ไหนมีลักษณะวิ่งหรือไม่ ซึ่งจะได้เข้มงวดในการหาข่าว ออกตรวจ และปราบปรามการพนันทุกรูปแบบ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ให้มีการเปิดเล่นพนันในเขตพื้นที่อย่างเด็ดขาด โดยจากสถิติที่ผ่านมาในรอบปีมีการจับกุม 18 ครั้ง กรณีมากกว่า 20 คน มีการจับกุมเพียง 4 ครั้งเท่านั้น
ทางด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าว ในฐานะที่ดูแลงานด้านความมั่นคง ได้ติดตามและกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ พร้อมรายงานให้ทราบอยู่เสมอ
ส่วนปลัดจังหวัดพังงา กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัด สิ่งผิดกฎหมายในชุมชน ทั้งยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนัน การครอบครองอาวุธ สถานบันเทิง พร้อมติดตามเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวทิ้งท้ายว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ จะต้องเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะผู้ช่วยนายอำเภอ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตามกฎหมาย สามารถสืบสวน สอบสวน และเข้าจับกุมได้ทันทีหากพบการกระทำผิด จากนี้ไปได้มอบให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้ง และขอความร่วมมือกับประชาชนหากพบเบาะแสใดๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายขอให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ทราบทันที