วันที่ 27 มิ.ย.67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมรับฟังการรายงานผลการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ ผ่านระบบทางไกล (zoom meeting) โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. เป็นผู้รายงานโดยมีรองผู้บัญชาการและรองผู้บังคับการที่รับผิดชอบงานยาเสพติด ในสังกัด บช.น. /ภ.1-9 และ บช.ปส. รวมทั้งหัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม

สืบเนื่องจาก การแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกพื้นที่ถือเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาล โดยนโยบายในด้านการปราบปราม ให้ทุกหน่วยเน้นการใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดเพื่อตัดวงจรและท่อน้ำเลี้ยงเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยทำงานเชิงรุกในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุมชน และสืบสวนขยายผลคดียาเสพติดทุกคดีเพื่อจับกุมและยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ทุกหน่วยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินของเครือข่ายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) ได้กำหนดให้ ตำรวจภูธรภาค 1 – 9 , กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมบูรณาการกับ สำนักงาน ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านการปราบปรามยาเสพติด เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ ซึ่งทุกหน่วยได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ และหลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติ  ได้มีการประชุมติดตามผลการปิดล้อมตรวจค้น โดยมีนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมรับฟังการรายงาน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ รอง ผบ.ตร. ได้รายงานว่า ในการระดมปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ มีเป้าหมายจุดตรวจค้นทั่วประเทศรวม 2,523 เป้าหมาย  เป็นเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 846เครือข่าย ผลการปิดล้อมตรวจค้นทั่วประเทศ  สรุปรายละเอียดได้ดังนี้ ผู้ต้องหา 131 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด 1,617 หมายจับ ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 4,784,018 เม็ด, ไอซ์ 590.83 กก. , คีตามีน 1.22 กก, เฮโรอีน 73.43 กก., ยาอี 45,439 เม็ด, อาวุธปืน 196 กระบอก และตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมมูลค่า 327,785,225, ล้านบาท
       
สำนักตำรวจแห่งชาติจะเน้นการปราบปรามให้เข้มข้นอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะการจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายย่อยในชุมชนซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชน และการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จะเห็นได้จากสถิติการจับกุมคดียาเสพติดของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติในห้วง 9 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน มีผลการจับกุมผู้ค้ารายย่อยได้ถึง 81,455 คดี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23,949 คดี หรือเพิ่มขึ้น 41 % การสกัดกั้นจับกุมเครือข่ายรายกลาง ยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด ถึง 500,000 เม็ด จำนวน 208 คดี เพิ่มขึ้น 60 คดีหรือเพิ่มขึ้น 40% จับกุมเครือข่ายรายใหญ่ ยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ดขึ้นไป จำนวน 171 คดี เพิ่มขึ้น 67 คดี หรือ เพิ่มขึ้น 64% ขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้สั่งการหรือสนับสนุน จำนวน 1,337 คดี เพิ่มขึ้น 550 คดี หรือเพิ่มขึ้น 70 %จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่หลบหนี จำนวน 3,050 หมายจับ เพิ่มขึ้น980 หมายจับหรือ 47% ตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน738.5ล้านเม็ด เพิ่มขึ้นถึง 392.8 ล้านเม็ด หรือเพิ่มขึ้น 113%  

และตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น  8,648 ล้านบาท ภายหลังรับฟังการรายงาน นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่สำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนร่วมกันทำงานให้เต็มที่และใช้ทุกวิถีทางในการปราบปรามยาเสพติด พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียสละและทุ่มเทในปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งถือได้ว่าเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องร่วมกันปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับพี่น้องประชาชน