จากกรณีที่เฟซบุ๊กส่วนตัวของ พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในทำนองว่าจะขอถอนตัวจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม
ล่าสุดวันที่ 27 มิ.ย.67 พลตรี นายแพทย์ เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เปิดเผยว่า คนไข้รายดังกล่าวเป็นหญิงอายุประมาณ 42 ปี ได้ไปใช้สิทธิ์รักษาที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง (รามาธิบดี) ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วยคนนี้ ซึ่งเธอได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปทั้งสิ้น ประมาณ 170,000 บาท โดยเธออ้างว่าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งปอดของเธอได้ จึงต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ซึ่งทั้งที่จริงแล้วโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นผู้รักษาโรคมะเร็งปอดของเธอจนหายขาด แล้วมองว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทรยศทีมแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็นอย่างมาก
หลังจ่ายค่ารักษาพยาบาลเธอได้ไปทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาลกับสำนักงานประกันสังคม ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายชดใช้ให้ประมาณ 90,000 บาท แต่ผู้ป่วยรายนี้ได้ไปยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติม ซึ่งสำนักงานประกันสังคมมีคำวินิจฉัยให้โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีกประมาณ 80,000 บาทให้กับผู้ป่วยรายนี้ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ์รักษา
ซึ่งหมอเหรียญทองมองว่า การกระทำดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับโรงพยาบาลของตนเอง จึงมีความต้องการอยากจะถอนตัวออกจากการเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ถ้าหากว่าผู้ประกันตนรายนี้ไม่ย้ายสิทธิ์การรักษาไปที่โรงพยาบาลอื่น และให้สำนักงานประกันสังคมยกเลิกคำวินิจฉัยดังกล่าว เพราะถ้าหาก 2 เงื่อนไขนี้ไม่เกิดขึ้นจริง ตนจะถอนตัวออกจากประกันสังคม ซึ่งจะทำให้มีผู้ประกันตนเกือบแสนคนได้รับความเดือดร้อน
หมอเหรียญทองยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเรื่อง ต้นและคณะผู้บริหารโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้มีการโทรศัพท์สอบถามไปยังผู้ประกันตนรายนี้ ซึ่งผู้ประกันตนรายนี้ก็ยังดึงดันและอ้างว่าโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจำเป็นต้องจ่ายเงินอีกประมาณ 80,000 บาทที่เหลือ แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วผู้ประกันตนรายนี้โทรกลับมาหาคณะผู้บริหารฯ พร้อมกับร้องห่มร้องไห้และมีความประสงค์ที่จะไปถอนคำยื่นอุทธรณ์