วันที่ 27 มิ.ย. 67 หนังสือพิมพ์สยามรัฐ จัดงานสัมมนาพิเศษ Soft Power The Key Success of Thailand ซอฟต์ พาวเวอร์ สานพลังขับเคลื่อนประเทศไทย เนื่องในวาระครบรอบ 74 ที่ห้องสัมมนา อาคาร ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต โดยมีนายกตพล คงอุดม รองประธานและกรรมการผู้จัดการหนังสือพิมพ์สยามรัฐ และนายวิโรจน์ วัฒนธาดากุล บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามรัฐ เข้าร่วม
ผศ.ดร.ศุภศิริ บุญประเวศ ประธานหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ การส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ผ่านกลไกตลาด ระบุว่า การสร้างซอฟต์ พาวเวอร์ คือการตั้งคำถามว่า หากรักใครสักคน ทำอย่างไรให้เขามารักเรา ในมุมมองของประเทศ คือ การทำอย่างไรให้ต่างชาติมารักเรา สิ่งสำคัญหลักคือ 1.วัฒนธรรม 2.ค่านิยม 3.ความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งซอฟต์ พาวเวอร์ หมายความว่า การได้มาในสิ่งที่ต้องการโดยผ่านการโน้มน้าวให้หลงรัก โดยไม่บังคับ ยกตัวอย่าง ด้านความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่างชาติยอมรับ โดยประเทศไทยไม่จำเป็นต้องบอก แต่ควรทำให้เห็น ซึ่งต่างชาติจะรับรู้ได้เอง
ด้านร้านค้า-บริการ เช่น ที่พักแห่งหนึ่งนำเสนอบรรยากาศวัฒนธรรมไทย และเลี้ยงแมว นักท่องเที่ยวชอบมาก เพราะรู้สึกเงียบสงบ จะเห็นว่าซอฟต์ พาวเวอร์คือการนำเสนอตัวตน ที่ต่างชาติหาไม่ได้ในประเทศของเขา ซึ่งความสงบ ห่างจากความวุ่นวายเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ สามารถเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ได้เช่นกัน
ด้านเพลง เช่น พบว่าชาวบราซิลส่วนหนึ่งชอบเพลงของลำไย ไหทองคำ ส่งผลให้อยากมาเที่ยวเมืองไทย ซึ่งเพลงกลายเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ที่มีพลัง โดยไม่จำเป็นต้องทำให้ชาวต่างชาติชอบ แต่ไทยสามารถนำเสนอตัวตนได้ผ่านความหลากหลายที่มีอยู่ในตนเอง
ด้านภาพยนตร์ เช่น เรื่องหลานม่า ได้รับเสียงสะท้อนจากชาวอินโดนีเซียว่า ทำให้ประทับใจในวิถีชีวิตความเป็นไทย ความอบอุ่น ความรักของผู้สูงอายุ สิ่งเหล่านี้กลายเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ทำให้ไทยมีเสน่ห์ น่ารักในสายตาชาวต่างชาติมากขึ้น
ด้านกีฬา เช่น วอลเล่ย์บอลของไทย ได้รับเสียงสะท้อนว่า กองเชียร์ชาวไทยมีความน่ารัก ไม่ว่าทีมใดได้แต้มก็เฮส่งเสียงเชียร์ แม้ทีมไทยเสียแต้มก็ยังส่งเสียเชียร์ด้วยรอยยิ้ม ชาวต่างชาติชื่นชมว่าคนไทยน่ารัก
ผศ.ดร.ศุภศิริ กล่าวว่า โดยสรุป การสร้างซอฟต์ พาวเวอร์ ต้องใช้เวลา แต่เชื่อว่าคนไทยสามารถสร้างได้จากความเป็นตัวเอง เช่น เสน่ห์ที่มีอยู่ ความน่ารัก น้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว อยู่ที่คนไทยจะให้ความร่วมมือและรักษาความเป็นตัวเองให้ชาวต่างชาติหลงรักและบอกต่ออย่างยั่งยืนได้อย่างไร
