คลังชง ครม.2 ก.ค.นี้ เคาะลุยหวยเกษียณ จ่อดันเฟส 2 ข้าราชการ-ประกันสังคม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 2 ก.ค. นี้ พิจารณาเห็นชอบการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อให้สามารถเดินหน้าโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลากเกษียณ หรือ หวยเกษียณ) พร้อมกันนี้ยังมีแนวคิดที่ทำหวยเกษียณ เฟส 2 โดยจะขยายไปยังกลุ่มข้าราชการและกลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคมอีกด้วย
โดยโครงการหวยเกษียณถือเป็นโครงการใหญ่ที่จริงๆ สามารถทำไปพร้อมกันได้ แต่กระทรวงการคลังมองในหลายมิติ โดยเฉพาะเรื่องประสิทธิภาพ จึงอยากรอดูความสำเร็จของเฟสแรกก่อน จึงมีการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป สำหรับขั้นตอนต่อไป ได้สั่งการให้ กอช. เร่งแก้ไขกฎหมายอํานาจหน้าที่ต่างๆให้สอดคล้องกับโครงการ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด
ส่วนกรณีที่สังคมมีการตั้งข้อสังเกตว่า โครงการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้คนเล่นหวยใต้ดินเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะมีการออกรางวัลมากถึง 4 งวดต่อเดือน ซึ่งมากกว่าการออกรางวัลของสำนักงานสลากินแบ่งรัฐบาลที่มีการออกรางวัล 2 งวด คือ งวดวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือนว่า ไม่เป็นข้อเท็จจริง เพราะโครงการนี้ถือเป็นคู่แข่งกับหวยใต้ดินด้วยซ้ำ ไม่ใช่สิ่งที่ไปทําให้หวยใต้ดินเพิ่มมากขึ้น ขณะที่โครงการหวยเกษียณมีความน่าสนใจในแง่ได้ลุ้นรางวัล มีอัตรารางวัลที่น่าสนใจ เชื่อว่าจะเป็นการดึงดูดคนที่จะเล่นหวยใต้ดินขึ้นมาเล่นตรงนี้มากกว่า เพราะฉะนั้นไม่เป็นการส่งเสริมแต่อย่างใด
“ด้วยกลไกของหวยเกษียณที่จะมีการลุ้นถึง 3 เด้งคือ 1.ประชาชนได้ลุ้น 2.ซื้อสลากฯ แล้วเงินไม่หายกลายเป็นเงินออม เพราะเงินจะโอนเข้าสู่บัญชีการออมใน กอช. ของผู้ซื้อสลากฯ 3.เงินในบัญชีจะถูกไปลงทุนบริหารจัดการ ด้วยอัตราความเสี่ยงที่ต่ำ โดยผลตอบแทนจากการลงทุนจะกลับเข้าบัญชีคนซื้อ โดยที่ผ่านมาพบว่าเสียงสะท้อนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง ตลอดจนนักวิชาการ เพราะเป็นการกระตุ้นการออมที่ดีของประเทศ
สำหรับเงินรางวัลหวยเกษียณนั้น แบ่งเป็น รางวัลที่ 1 มีจำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 1,000,000 บาท และ รางวัลที่ 2 มีจำนวน 10,000 รางวัล รางวัล 1,000 บาท โดยหลักการจ่ายรางวัลเบื้องต้น หากแต่ละงวดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะมีการทบรางวัลนั้นๆ ไปในงวดถัดไป และเงินค่าซื้อสลากทั้งหมด จะเป็นเงินออมของผู้ซื้อสลาก (เงินสะสม) ซึ่งจะนำเงินส่งเข้าบัญชีเงินออมรายบุคคลกับ กอช. โดย กอช. จะเป็นผู้บริหารจัดการเงินจำนวนดังกล่าว และเมื่อผู้ซื้อสลากอายุครบ 60 ปี จะสามารถถอนเงินทั้งหมดที่ซื้อสลากทั้งชีวิตออกมาได้
ทั้งนี้ในส่วนผลกระทบด้านเงินงบประมาณนั้น นายเผ่าภูมิกล่าวว่า โครงการนี้จะกระทบกับงบประมาณน้อยมาก เพราะมีการใช้งบประมาณเพื่อจ่ายรางวัลสัปดาห์ละ 15 ล้านบาท เดือนละ 60 ล้านบาท หรือ 700-800 ล้านบาทต่อปี ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับงบประมาณของเบี้ยคนชรา ที่ใช้เงินประมาณ 90,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วอยากให้มองว่าอันไหนมันคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่ากัน
#ข่าววันนี้ #หวยเกษียณ #ข้าราชการ #ประกันสังคม