ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมิถุนายน 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคเหนือ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรและการท่องเที่ยว รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมิถุนายน 2567 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมิถุนายน 2567 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคเหนือ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลต่อสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรและการท่องเที่ยว รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 81.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในภาคบริการ จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีอย่างต่อเนื่องของทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบกับมาตรการรัฐเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยผู้ประกอบการบางส่วนคาดว่า ภาวะเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางขยายตัวได้ต่อเนื่อง รวมถึงมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ทางบก เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดในพื้นที่อุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันของจังหวัด และส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  ยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 83.0

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนืออยู่ที่ระดับ 77.2 สะท้อนความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ อีกทั้งข้อมูลการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม จำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรม และภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นในภาคบริการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากใกล้เข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยว ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนและมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้อยู่ที่ระดับ 76.0 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคการอุตสาหกรรม จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี รวมถึงอุปสงค์ความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยางพาราและอาหารทะเลแปรรูป

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 74.2 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยว และทิศทางราคาผลผลิตเกษตรมีแนวโน้มสูงขึ้น จะช่วยจูงใจให้มีแรงงานเข้าสู่ภาคเกษตรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางส่วนยังมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แปรปรวน และความเชื่อมั่นในภาคบริการได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและการบริโภคอย่างต่อเนื่องผ่านการจัดงานและกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆภายในจังหวัด รวมถึงผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทยและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 72.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากภาคการส่งออกขยายตัว ประกอบกับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวและนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ ทั้งนี้ ยังต้องติดตามเกี่ยวกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ การระบาดของโรคและแมลง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงความผันผวนของตลาดการเงินโลก และการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทย

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 71.4 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยบวกจากภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก สภาพอากาศคาดว่าจะมีความเหมาะสมและมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อผลผลิต นอกจากนี้ แนวโน้มธุรกิจภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมมีสัญญาณขยายตัวได้ จากการส่งออกและความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีการลงทุนเพื่อขยายกิจการมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังควรติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะถัดไป

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 65.8 สะท้อนความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคการลงทุน ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แต่ยังต้องติดตามประเด็นความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความผันผวนของราคาน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน

#ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคต #เศรษฐกิจภูมิภาค #ข่าววันนี้ #ภัยแล้ง #ราคาน้ำมัน