สมชายโบ้ยล็อกปธ.วุฒิฯ      กกต.เผยยอดผู้สมัครสว.รายงานตัวเข้าคูหา 2,989 คน ขาด 6 คน คนดังพาเกรดมาตามนัด สมชาย วงศ์สวัสดิ์-ทนายตั้ม-อังคณาŽ ระบุผู้สมัครชูสามนิ้วไม่มีกฎห้าม ยันประชุมล็อบบี้ผู้สมัครไม่ผิดกม. แต่ต้องดูว่ามีการให้ผลประโยชน์หรือไม่ สั่งเกาะติดผู้สมัครเข้าห้องน้ำ หวั่นเกิดทุจริต      

ที่อิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ โดยในช่วงเช้า นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะผอ.การเลือกสว.ระดับประเทศ ได้บรรยายแนวทางปฏิบัติและขั้นตอนวิธีการเลือก สว.ระดับประเทศ พร้อมรายงานผลการรายงานตัวของผู้สมัครแต่ละกลุ่ม ว่า มีผู้มารายงานตัวทั้งสิ้น 2,989 คน จากผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 2,995 คน  ไม่มารายงานตัว 6 คน ใน 5 กลุ่มอาชีพ คือ กลุ่มที่ 5 กลุ่มที่ 7 กลุ่มที่ 12 กลุ่มที่ 18 กลุ่มละ 1 คน และกลุ่มที่ 9 ขาด 2 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จก็เข้าสู่กระบวนการเลือก คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง    

 ด้าน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ให้สัมภาษณ์หลังตรวจความพร้อมในการจัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2567 ว่า จากการตรวจความเรียบร้อยการรายงานตัว ตามห้องที่จัดเลือกเป็นกลุ่มๆ ก็มีความพร้อม ซึ่งตามกระบวนการจากนี้ ทางเลขาธิการฯ กกต. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศจะอธิบายกระบวนการเลือกราว 30 นาที ดังนั้นน่าจะมีการเลือก 09.30 น. และคาดว่าใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็จะแล้วเสร็จ และหยุดพักรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง จากนั้นจะจับสลากแบ่งสาย แจกเอกสารแนะนำตัว และให้มีการศึกษา 1 ชั่วโมง และเริ่มกระบวนการเลือก 2 ชั่วโมงครึ่ง เสร็จในเวลา 17.30 น.  

  ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีไลน์หลุดว่ามีเอ็นจีโออยากให้ผู้สมัครมอบคะแนนเสียงให้คนของตัวเอง นายอิทธิพร กล่าวว่า เห็นข่าวและภาพว่าแต่ละกลุ่มน่าจะมีใครได้รับเลือก แต่กฎหมายห้ามทำโพล ตามมาตรา 87 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. 2561 ส่วนการให้ข้อคิดเห็น เสนอความเห็นว่า ในมุมมองของผู้เสนอข้อมูลเหล่านี้ เป็นการเสนอจากที่เขาเห็นว่า ตามบัญชีรายชื่อมีผู้ใดในสายตาเขาควรได้รับเลือก ก็เป็นการให้ข้อคิดเห็น แต่ตามแนวปฏิบัติกกต. เมื่อมีประเด็นทำนองนี้ สำนักงาน กกต.จะศึกษาข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย หากมีการกระทำที่จะต้องให้กกต.ตัดสินใจก็จะส่งเรื่องให้กกต.พิจารณา ตัดสิน       เมื่อถามว่า มี 300 ผู้สมัครรวมกลุ่มสัมมนา และมีการล็อบบี้ ข้อเท็จจริง แนวปฏิบัติเป็นอย่าง นายอิทธิพร กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามข่าว เป็นการจัดเพื่อจะพูดข้อเท็จจริงระหว่างกัน และจัดอย่างเปิดเผย อย่าลืมว่ากฎหมายไม่ได้ห้ามการพบปะ แนะนำตัว โดยระเบียบกกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวนั้น ได้รับการผ่อนคลายจากศาล ว่าให้ผู้สมัครมีโอกาสแนะนำตัวได้มากที่สุด แล้วกระบวนการใดที่ทำโดยเปิดเผยก็ให้ถือในเบื้องต้นว่า เป็นการดำเนินการโดยสุจริต แต่ทุกเหตุการณ์ทางกกต.ได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปติดตามอยู่แล้ว ให้มั่นใจว่าไม่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย เมื่อถามว่า การล็อบบี้จะทำให้การเลือกสว.เป็นไปอย่างสง่างามหรือไม่ นายอิทธพร กล่าว่า ต้องดูว่า เป็นการให้ผลประโยชน์หรือไม่ แต่เป็นการนำเสนอระหว่างคนที่เกี่ยวข้องว่า ตนเองมีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องปกติ  

    สำหรับกรณีที่มีการพาดหัวข่าวว่ามีการซื้อเสียงหลักแสน หลักล้านบาท นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ผู้สื่อข่าวและสาธารณชนติดตามมาตลอด โดยเราได้พยายามติดตามพฤติการณ์ที่น่าสงสัยมาตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ ถ้ามีพยานหลักฐานเมื่อใดก็จะดำเนินการ ซึ่งมีการรวบรวมไว้ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จนนำมาสู่ระดับประเทศ และขอความร่วมมือจากประชาชนหลายครั้งว่าหากมีเบาะแสก็ขอให้แจ้งเข้ามา ซึ่งจะมีเงินรางวัลสูง มากกว่าเงินที่จะได้จากการซื้อสิทธิ ขายเสียงอีก ขณะนี้มีคนแจ้งเบาะแสมาประมาณหนึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการสืบสวนของสำนักงานซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการดูว่าพยานหลักฐานสมควรทำสำนวนส่งให้กรรมการพิจารณาโดยเร็วหรือไม่    

  เมื่อถามถึงเรื่องร้องเรียนในระดับจังหวัดกรณีมีการไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งมองว่าอาจจะมีการทุจริตทำให้มีผู้มาร้องเรียนนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้ได้วางมาตรการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตั้งแต่ระดับอำเภอว่า ต้องตรวจสอบภายในห้องน้ำที่จะให้บริการกับผู้สมัครว่า มีการแอบวางสิ่งใดไว้หรือไม่ หากผู้สมัครประสงค์เข้าห้องน้ำก็ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีเจ้าหน้าที่นำทางไป เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์     

มั่นใจว่าในวันนี้จะได้สว. 200 คน ซึ่งผู้สมัครมากันเยอะเฉลี่ย 150 คนต่อกลุ่ม น้อยสุด 120 คน ฉะนั้นตามกระบวนการก็จะได้ 200 คน  ส่วนก่อนการรายงานตัวมีผู้สมัครชู 3 นิ้ว ก็มองว่าการชู 3 นิ้ว โดยหลักแล้วไม่มีอะไรห้าม แต่เราไม่อยากให้ทำอะไรที่ทำให้เกิดคำถาม แต่เราถ่ายรูปก็ชอบทำท่านั้น ท่านี้ อยู่แล้ว ซึ่งตนคิดว่า เป็นเรื่องปกติ      

นายอิทธิพร ยังกล่าวเตือนว่า ท่านเข้าใจกระบวนการเลือกตั้งแต่ระดับอำเภอ และระดับจังหวัดมาแล้ว มีการแจกคู่มือทุกครั้งถึงขั้นตอนการเลือก ฉะนั้นถือว่าผู้สมัครรู้จักหน้าที่และสามารถปฏิบัติตนได้ตามระเบียบขั้นตอนเป็นอย่างดี      สำหรับบรรยากาศก่อนหน้านี้พบว่า มีผู้สมัคร สว. ที่เป็นคนมีชื่อเสียงเข้ามาลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือก เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ,นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ"ทนายตั้ม" ,นายฐานุพงศ์ ศักดิ์ธนาวัฒน์ หรือ "กล้วย เชิญยิ้ม" ศิลปินตลกชื่อดัง ,น.ส.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ,นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ,พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร. ,นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี หรือ "ผู้ว่าฯ ปู" อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง เป็นต้น      โดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้สมัคร สว. ยิ้มให้สื่อมวลชน หลังถูกถามว่านำสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรติดตัวมาด้วยหรือไม่ ซึ่งนายสมชาย  กล่าวเพียงว่า เอาความตั้งใจมา เมื่อถามว่า กลุ่มที่หนึ่งมีการแข่งขันกันสูงมาก นายสมชาย กล่าวว่า ยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะเป็นผู้สมัครคนหนึ่ง ที่มารับการคัดเลือก ส่วนที่มีการขับเคี่ยวกันเยอะก็เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อถามอีกว่า มีกำลังใจอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (ภรรยา น้องสาวนายทักษิณ ชินวัตร)       ส่วนกระแสข่าวที่มีการวางตัวนายสมชายเป็นประธานวุฒิสภานั้น นายสมชาย โบกมือปฏิเสธ พร้อมกล่าวว่า วันนี้มาคัดเลือกตามระเบียบ จะผ่านหรือไม่อยู่ที่ผู้สมัครจะเลือก ตอนนี้ยังไม่คิดอะไร เมื่อถามว่า หากได้รับเลือกเป็น สว. อยากผลักดันเรื่องอะไร นายสมชาย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เป็น พูดอะไรไม่ได้ สัมภาษณ์อะไรไม่ได้ ขอให้มีการคัดเลือกก่อน เมื่อถามว่าเมื่อคืนนี้กินอิ่ม นอนหลับ ดีหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า "สบายมากครับ" เมื่อถามต่อว่า ได้ขอกำลังใจจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า "ไม่มีอะไรครับ"  

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า ปรากฎข้อมูลว่ามีผู้สมัคร สว.ชายรายหนึ่ง พอเดินเข้ามาถึงจุดที่มีสื่อมวลชนรอเก็บภาพเพื่อรายงานข่าว ได้ชูมือขึ้นเหนือหัว แสดงสัญลักษณ์ 3 นิ้ว โดย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ให้ความเห็นถึงกรณีชูสามนิ้วว่า  การชู 3 นิ้วโดยหลักแล้วไม่มีอะไรห้าม แต่เราไม่อยากให้ทำอะไรที่ทำให้เกิดคำถาม เราถ่ายรูปก็ชอบทำท่านั้น ท่านี้ อยู่แล้ว คิดว่า เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลผ่านแอพพิเคชั่นสมาร์ทโหวต พบว่า ผู้ที่ชูสามนิ้ว คือผู้สมัครหมายเลข 48 กลุ่มที่ 17 นายธัชพงศ์ แกดำ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง จากจ.ปทุมธานี   

  ผู้สื่อข่าวรายงานการดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยหลังตรวจสังเกตการณ์ความพร้อมการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยของหน่วยเลือกสว.ระดับประเทศ ที่อาคารศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม อาคาร 4 เมืองทองธานี จ.นนทบุรีว่า ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีมาก หากไม่มีเหตุใดก็คาดว่าจะเสร็จสิ้นได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งได้รับข้อมูลจากประธาน กกต.      คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 16.00-17.00 น. โดยวันนี้ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 150-160 นาย เพื่อคอยรักษาความปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยเก็บกู้ระเบิด หรือ EOD ตำรวจจราจร และกำลังเสริมที่พร้อมจะสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 50-60 นาย โดยจะปฏิบัติในภารกิจหลัก 3 ด้าน คือ การรักษาความสงบ ความปลอดภัย และหากพบการกระทำผิดทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องในทางคดีเพื่อดำเนินการต่อไป ขอให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และเป็นกลาง    

 สำหรับรายงานเรื่องการกระทำความผิดนั้น ยังไม่มีเรื่องอื่นเพิ่มเติม ยังคงเป็นเรื่องเดิมประมาณ 4 - 5 เรื่อง ความผิดที่ชัดเจนเกิดขึ้นที่จังหวัดนนทบุรีที่นำอุปกรณ์หูฟังเข้าไปยังเขตเลือก กกต.อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาดำเนินการ ส่วนการจราจรโดยรอบในช่วงเช้าวันนี้สามารถบริหารจัดการได้ดี ไม่ติดขัด แต่ภายหลังการเลือกเสร็จสิ้นหากผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางออกพร้อมกันคาดว่าจะทำให้เกิดการติดขัดบ้าง ซึ่งได้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกการจราจร และประสานกับเทศบาลในการพร่องน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนไว้ล่วงหน้าแล้ว    

  ด้าน นายสมชาย แสวงการ สว. กล่าวถึงการเลือกสว.ระดับประเทศ ว่า ตนไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกดังกล่าว เนื่องจากมองว่ากระบวนการเลือกนั้นถูกบิดเบือน มีการเกณฑ์ ขนคน และจ้างวาน จึงถือว่าเป็นการเลือกที่โมฆะ ตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ดีก่อนหน้านั้นตนทำเรื่องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือกสว.ที่เป็นปัญหาใน 4 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ ตรัง อำนาจเจริญ และ ศรีสะเกษ พร้อมกับเอกสารที่เป็นหลักฐาน 300 หน้า ส่วนกรณีที่พบว่าก่อนวันเลือกระดับประเทศ มีกระบวนการรวมกลุ่มสว. ล็อบบี้ และว่าจ้างนั้น ตนได้รับข้อมูลว่ามีการต่อรองราคาไปถึงหลักล้านบาท      

"สิ่งที่กกต.ยังสามารถตรวจสอบในกรณีฮั้วเลือกสว.ได้ คือ ผู้สมัครที่ไม่ได้รับคะแนนใดๆ ในการเลือกระดับประเทศหรือศูนย์คะแนน โดยสามารถตรวจสอบและกันไว้เป็นพยานได้ ทั้งนี้ผมยืนยันว่าสิ่งที่ตรวจสอบนั้นไม่ต้องการเพื่อให้ได้อยู่ต่อ แต่ต้องการให้การได้มาซึ่ง สว.จากกลุ่มอาชีพนั้น เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่มีสว.เชี่ยวชาญตามวิชาชีพ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง" นายสมชาย กล่าว    

 สำหรับการประกาศผลของการเลือกสว. กกต.ควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะรีบประกาศ โดยตนเชื่อว่าผู้ที่ได้รับเลือกอาจมีผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติการเป็นสว. เพราะมีกรณีถือหุ้นสื่อหรือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นกกต.ควรใช้ความรอบคอบ ไม่ควรรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลัง เพราะกกต.ไม่มีอำนาจ รวมไปถึงประสบการณ์การเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมาที่พบว่ามีการขอให้ระงับการประกาศผลเลือกสส. 71 เขต แต่กกต.ปล่อยไปก่อน แต่ไม่พบการสอยทีหลังแต่อย่างใด และมี สส.บางรายที่มีประเด็น กลับยังทำหน้าที่ในสภา    

 นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw กล่าวว่า การเดินทางมาชมการเลือก สว. วันนี้ไม่ได้สร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนเลย การเลือกสว.มี 20 กลุ่ม แต่ให้ผู้สังเกตการณ์เข้าร่วมได้แค่ 15 คน จากทุกองค์กร ทำให้ไม่สามารถสังเกตการณ์ได้ครบทุกกลุ่ม โดยกกต.ให้เหตุผลแค่ว่าสถานที่ไม่เพียงพอ แต่เมื่อดูจากกล้องวงจรปิด ก็เห็นว่ามีสถานที่ และมีเจ้าหน้าที่อยู่ข้างในจำนวนมากไม่ทราบว่าปฏิบัติหน้าที่อะไร ซึ่งหากมีการประท้วงว่าการนับคะแนนผิดพลาด เราคงไม่สามารถเป็นพยานให้ได้ ว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่  

   เมื่อถามว่า กกต.บอกว่าจะมีการถ่ายทอดสดติดตามได้ทางโซเชียลและที่บ้าน นายยิ่งชีพ กล่าวว่า ภาพที่เห็นไม่มีอะไรเลย ภาพที่ถ่ายออกมามีมุมเดียว ส่วนใหญ่เดินตามผู้ใหญ่ของ กกต. ว่าเดินไปตรงไหน นั่งตรงไหนบ้าง และไม่มีเสียง จนถึงขณะนี้เวลา 11.00 น ยังไม่ทราบเลยว่าด้านไหนทำอะไร และขั้นตอนถึงไหนแล้ว ดังนั้นที่ กกต.บอกว่า การเลือกให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเปิดเผยไม่เป็นความจริง แล้วที่บอกว่า มีผู้สังเกตการณ์อยู่ด้านใน ก็เป็นความจริงครึ่งเดียว ตอนนี้ กกต.ยังสามารถแก้ไขได้ทัน    

 ก่อนหน้านี้มีข้อครหา เรื่องของการฮั้ว มีการจัดตั้งหรือมีกลุ่มบ้านใหญ่  โอกาสเดียวที่สามารถตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ได้ คือการเห็นคะแนนดิบ กกต.ต้องเปิดเผยว่า ตกลงใครโหวตให้ใคร ประชาชนจะได้ตั้งข้อสังเกต ว่า มีกระบวนการฮั้วลงคะแนนกันอย่างไร แต่หากแป๊ะคะแนนไว้แค่ข้างใน ประชาชนก็จะไม่ทราบข้อมูล เท่ากับประชาชนไม่ได้ร่วมตรวจสอบเลย    

 เมื่อถามว่า กรณีที่มีแชทไลน์หลุดออกมาว่ากลุ่มสมัครภาคประชาชนเข้ามาขอคะแนน นายยิ่งชีพ กล่าวว่า เห็นข่าวดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มไลน์นั้น และเท่าที่ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ไอลอว์ทุกคนก็ไม่มีใครอยู่ในกลุ่มไลน์นั้นเลย มีคนอยู่แค่ 38 คน และก็ไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง คนที่พูดก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่รู้ด้วยว่าพูดกับใคร ค่อยคำแนะนำเสียงเหมือนเขากำลังด่า iLaw อยู่ แต่ iLaw ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้นจึงไม่รู้ว่าเขาด่าใคร "ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาiLaw ได้รับแจ้งจากผู้สมัครมาตลอด ว่า มีคนไปขอคะแนน โดยอ้างว่าตัวเองเป็นสายของ iLaw ว่าเป็นคนของ iLaw และ iLaw ส่งมาให้สมัคร ซึ่งเราได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่าเราไม่มีผู้สมัครสาย iLaw ถ้าใครไปแอบอ้าง ว่า เป็นคนของ iLaw เรื่องนี้คือโกหกและแอบอ้าง เราอยากได้ข้อมูลไปตรวจสอบว่าคนนี้เป็นใคร เราอยากให้ผู้สมัครท่านนั้นเดินมาคุยกับเราหน่อย เชื่อว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบไม่ยาก"    

  ส่วน นายกฤต แสงสุรินทร์ ตัวแทนจาก We Watch กล่าวว่า การเลือกตั้ง สว.วันนี้ เมื่อผู้สังเกตการณ์เดินทางมาถึง ปรากฏว่า กกต. ให้ทราบข้อสังเกตการได้เพียง 15 คน ทำให้รายชื่อที่เราส่งมา 10 คน ไม่สามารถเข้าไปได้ทั้งหมด และยังพบปัญหา จุดที่ผู้สังเกตการณ์อยู่เป็นอัศจรรย์ชั้น 2 ไม่สามารถมองเห็น สถานการณ์ทั้งหมดได้ และอยู่ไกลมาก รวมถึงไม่สามารถเห็นการนับคะแนน อาจจำเป็นต้องใช้กล้องส่องทางไกลหรือโทรศัพท์มือถือซูม จึงขาดรายละเอียดในการสังเกตการณ์ ที่จะตรวจสอบความโปร่งใสในการเลือก สว.ครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังไม่เห็นการติดประกาศรายงานผลคะแนน ทั้งการเลือกในกลุ่มอาชีพเดียวกันเองหรือเลือกไขว้ และวันนี้กระดานที่ติดประกาศคะแนนอยู่ด้านใน ทำให้ประชาชนแล้วนักข่าวไม่สามารถดูได้ จึงเรียกร้องให้ กกต.นำ กระดานผลคะแนนมาติดตั้งไว้ด้านนอก เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามได้