รองโฆษกรบ.ซัดก้าวไกล ใจไม่กว้างพอ ทำงานไม่ก้าวหน้า ปมศิริกัญญาจ้องยื่นศาลปกครอง ระงับโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ระบุศาลฯไม่ได้เปิดช่องให้ทำได้ 
       
     เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พูดในรายการข่าวทีวีช่องหนึ่งว่าจะไม่รับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 จะรอให้ผ่านวาระ 3 ก่อนถึงจะยื่นศาลปกครอง ระงับเงินโครงการดิจิทัลวอเล็ต ว่า ในฐานะนักกฎหมาย ได้ฟัง และในฐานะเคยเป็นส.ส. เคยร่วมพิจารณางบประมาณอยู่หลายปี แม้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะผ่านวาระ 3 แล้วก็ตาม ก็ยังไม่เป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ เพราะสุดท้ายกฎหมายงบประมาณก็ต้องไปวุฒิสภา และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงจะเป็นกฎหมายใช้บังคับได้

     นายคารม กล่าวว่า  มาตรา9 ของพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ก็ไม่ได้เปิดช่องให้ทำได้แต่อย่างใด หากจะพอกล้อมแกล้มให้ฝ่ายค้านได้เดินหน่อย ก็มีมาตรา11 (2) แต่ก็ไปได้ยากมาก อีกทั้งงบประมาณแผ่นดิน แม้จะออกไม่ทันในปีงบประมาณ มาตรา141 ของรัฐธรรมนูญ ก็เขียนไว้ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายของปีก่อนได้

     นายคารม ยังกล่าวถึงวิธีการของพรรคก้าวไกลที่แสดงผ่านน.ส.ศิริกัญญา เป็นวิธีใจ การทำงานที่ใจไม่กว้าง ไม่ก้าวไกล ไม่ก้าวหน้า และไม่ก้าวใหม่จริง ความจริงในพรรคก้าวไกลก็มีส.ส.ก้าวไกลเป็นกรรมาธิการอยู่แล้ว อย่างเช่น นายวีระ ธีระภัทรานนท์ น่าจะปรึกษาท่านได้ คนนี้เก่งรอบด้าน อุตส่าห์เอาไปเป็นกรรมาธิการ ควรใช้โอกาสนี้ ในการปรับลดอะไรให้เต็มที่ เมื่อตกผลึกแล้วก็จะได้งบประมาณที่สมบูรณ์ แล้วนำมาใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ตามกำหนดเวลา

     นายคารม กล่าวว่า จริงๆ การจะอ้างว่าร่างกฎหมายงบประมาณปี68 ขัดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็มีรัฐธรรมนูญ มาตรา148 ที่ให้ส.ส.หรือ สว. 1 ใน10 เสนอว่าร่าง กม.งบประมาณขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ให้ประธานสภาใดสภาหนึ่งยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ พอให้ไปศาลรัฐธรรมนูญได้ ถ้าทำแบบนี้ ยังจะพอเหมาะสมกับความเป็นผู้นำพรรคการเมืองหน่อย แต่การที่คนของพรรคก้าวไกลซัดศาลรัฐธรรมนูญไว้มาก เลยไม่อยากใช้บริการ การแสดงความคิดของระดับผู้นำพรรคที่แสดงออกมาจึงไม่รอบด้าน และออกจะขาดมาตรฐานไปหน่อย เหมือนกับตอนที่เคยเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ในสภาฯ สุดท้ายพรรคก็ต้องมาลำบาก เพราะความไม่รอบด้าน