เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 มิ.ย.67 พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ แสงจันทร์ สว.สส.(สอบสวน) สภ.เมืองจันทบุรี พร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, และกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน ร่วมตรวจสอบเหตุ มีคนกินยาเกินขนาดจนเสียชีวิต โดยเหตุในบ้านพักเลขที่ 50/3 ซอยเทศบาลพัฒนา 3 ต.วัดใหม่
อ.เมือง จ.จันทบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ห้องนอนภายในบ้าน พบศพของ นายวีรยุทธ หรือบอล อายุ 35 ปี อยู่ในลักษณะนอนหงายเสียชีวิต ในสภาพน้ำลายฟูมปาก ไม่สวมเสื้อ ใส่กางเกงยีนส์ขายาวเพียงตัวเดียว ร่างกายสภาพเริ่มเขียวคล้ำไม่พบบาดแผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 ชั่วโมง ข้าวของภายในห้องอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้ ซึ่งก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง ที่หน้าห้องนอนพบมีเม็ดยาฟีโนบาร์บิทัล เป็นยาในกลุ่มยากันชัก และกลุ่มยากดประสาท ช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับในระยะสั้น ตกอยู่เกลื่อนพื้น โดยมี นายสมศักดิ์ อายุ 62 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ที่พิการขาซ้ายขาดต้องใส่ขาเทียม ได้เก็บเม็ดยาใส่กลับกระปุกไปก่อนหน้าแล้ว
นายสมศักดิ์ พ่อผู้เสียชีวิตให้การว่า วานนี้ก่อนเกิดเหตุ ยังคุยกับ นายวีรยุทธ ลูกชาย ตามปกติ แต่มาผิดสังเกต ตรงที่ลูกพูดว่า “เดี๋ยวจะตายแบบจมน้ำตามที่เป็นข่าวให้ดู” จนเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ได้เห็น นายวีรยุทธ เดินบ่นพึมพำอยู่คนเดียว จึงบอกถ้านอนไม่หลับ ให้ไปเอายาของตนเองไปกิน เพื่อช่วยให้นอนหลับ ซึ่งลูกชายได้มาขอไปกิน 2 เม็ดแล้วกลับเข้าห้องไป จนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม หลังจากตนเองทำพลอยแล้วเสร็จ ได้เข้านอนตามปกติ จนรุ่งเช้าตื่นมา ก็เห็นเม็ดยาตกเต็มพื้นไปทั้งบ้าน จึงเก็บใส่กระปุกไว้เหมือนเดิม แต่มาสังเกตว่า ยาที่เก็บใส่กระปุกได้หายไปจำนวนหนึ่ง ทั้งที่เพิ่งจะไปรับยามาเพิ่มได้เพียงไม่กี่วัน แต่ไม่ได้ใส่ใจ ก่อนจะไปเรียกลูกชาย เพื่อให้ไปซื้อของกินแต่ไม่มีเสียงตอบซึ่งเป็นจังหวะที่เพื่อนลูกมาพอดี จึงให้ช่วยเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับเช่นกัน จึงเกิดเอะใจรีบให้เพื่อนลูกพังประตูเข้าไปก็พบว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว
นายสมศักดิ์ ให้ข้อมูลอีกว่า ก่อนหน้านี้ นายวีรยุทธ ลูกชายเคยใช้ของมีคมทำร้ายตัวเอง และเคยกินยาคิดสั้นมาแล้ว แต่สามารถนำตัวส่ง โรงพยาบาลได้ทัน แต่ไม่มีใคร คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ส่วนสาเหตุของการคิดสั้น น่าจะมาจากภาวะเครียดสะสมคิด ที่ผู้ตายหางานทำไม่ได้มาแล้วหลายปี
อย่างไรก็ตาม หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้แพทย์ชันสูตร ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ก่อนให้ทางญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป