“สมศักดิ์” ปล่อยขบวนขนย้ายยาเสพติดไปทำลาย กว่า 20 ตัน มูลค่า 6,456 ล้านบาท ระบุ ปีนี้เผายาเสพติดของกลางไปแล้ว 340 ตัน ชี้ ต้นทุนผลิตยาบ้า 2 หมื่นกิโล 2 ล้านบาท แต่ขายได้ถึง 6 พันล้าน เผย ผลรับฟังความเห็นดึงกัญชากลับยาเสพติด 1 แสนราย 80% เห็นด้วย เตรียมชง คณะกรรมการ ป.ป.ส.

วันที่ 26 มิถุนายน 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีปล่อยขบวนขนย้ายยาเสพติดของกลาง ครั้งที่ 58 โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่บริเวณถนนหน้าอาคาร ONE STOP SERVICE CENTER สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า องค์การสหประชาชาติ กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก ประเทศไทยในฐานะสมาชิก ตระหนักดีว่า ยาเสพติด เป็นภัยร้ายแรง เป็นวาระแห่งชาติ เป็นปัญหาสังคมที่ต้องป้องกัน จึงเร่งรัดปราบปราม ดำเนินการยึดทรัพย์ ตลอดจนพัฒนาระบบบำบัด เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทย ให้มีความมั่นคงปลอดภัย ภายใต้วิสัยทัศน์ “สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด ด้วยมาตรการทางเลือกใหม่ สู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” 

“ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดกิจกรรมทำลายยาเสพติดของกลางอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2567 เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้ทำลายยาเสพติดของกลางไปแล้ว น้ำหนักรวม 340 ตัน สำหรับครั้งนี้ เป็นการทำลายยาเสพติดของกลาง ครั้งที่ 2 ของปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมียาเสพติดของกลาง รวมทั้งสิ้น 41,800 คดี น้ำหนักรวมกว่า 20 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6,456 ล้านบาท โดยผมขอขอบคุณคณะกรรมการจัดการยาเสพติดของกลาง กระทรวงสาธารณสุข และผู้แทนหน่วยงานจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ดำเนินภารกิจสำคัญในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการก้าวสู่เป้าหมาย สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติด” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติด ได้มีผลบังคับใช้แล้ว ลดจำนวนยาบ้า จาก 5 เม็ด เหลือ 1 เม็ด พร้อมนำกัญชากลับเข้าเป็นยาเสพติด โดยกระทรวงสาธารณสุข เป็นเพียงปลายทาง ต้องเร่งปราบปราม โดยเฉพาะยึดทรัพย์ ซึ่งตนได้พบกับคุณมาซุด คาริมิปูร์ ผู้แทน UNODC โดยเห็นตรงกันว่า การยึดทรัพย์เป็นทางออกที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติด มากกว่าการปราบปราม และความรุนแรงเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน วันนี้ ตนก็ได้นำทุกท่านไปดูโกดังเก็บยาเสพติด ที่ขณะนี้โล่งหมดแล้ว เนื่องจากมีการเผาต่อเนื่อง ส่วนที่มีผู้คนสงสัยว่ายาเสพติดหายไปไหน ก็ขอย้ำว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ถ้าศาลยังไม่ตัดสิน ก็ไม่สามารถทำลายได้ แต่ถ้าคดีเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำลายได้แบบวันนี้

นอกจากนี้ ภายหลังปล่อยขบวนขนย้ายยาเสพติด นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า ต้นทุนสารตั้งต้นยาบ้า กิโลกรัมละ 100 บาท หาก 1 ตัน ก็จะมีต้นทุน 100,000 บาท ซึ่ง 20 ตัน ก็มีต้นทุน 2 ล้านบาท ตนจึงอยากให้เข้าใจว่า สารตั้งต้น 2 ล้านบาท แต่สามารถขายปลายทางได้ถึง 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวโดยถ้าเราคำนวนเห็นตัวเลข ก็จะเข้าใจว่า ผู้ค้าไม่กลัวคุกตาราง ดังนั้น การจับจะไม่หลาบจำ ต้องเน้นการยึดทรัพย์ ส่วนจากนี้ ก็จะช่วยดูสารตั้งต้น เพราะกระทรวงสาธารณสุข ก็มีส่วนนำสารเคมีเข้ามา ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ ยารักษาโรค หรือ ส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งถ้าตรงไหนนำเข้ามามาก ก็ต้องตั้งข้อสังเกตุ และควบคุมให้ละเอียด

เมื่อถามถึงการรับฟังความคิดเห็นการนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทราบว่า มีคนมาให้ความเห็นกว่า 1 แสนคน แต่ในรายละเอียดของความเห็น ตนยังไม่ได้ลงรายละเอียด แต่ใน 1 แสนคน ส่วนใหญ่ ไม่น้อยกว่า 80% เห็นด้วยที่ให้นำกัญชากลับเป็นยาเสพติด

เมื่อถามถึงมีข้อสังเกตุว่า จะอนุญาตให้นำเข้าสิ่งที่ไม่ใช่ยาเสพติดเข้าประเทศได้ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นระเบียบที่ออกมาได้ภายหลัง โดยเป็นกฎกระทรวงที่ต้องตามมา ส่วนรายละเอียดการใช้ หรือ การดำเนินการ ก็ต้องมาหารือกันต่อไป ส่วนการนำเข้ากัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติด ขอย้ำว่า เราไม่ประสงค์ให้นำเข้า แต่จะทำได้อย่างไร ก็ขอให้คณะกรรมการพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนขั้นตอนจากนี้ ก็จะนำความคิดเห็นทั้งหมด มาดูอย่างละเอียด ก่อนส่งเข้าพิจารณาในคณะกรรมการ ป.ป.ส. ที่มีรองนายกฯเป็นประธาน โดยเรื่องนี้ ไม่ต้องเข้าครม. จากนั้น ก็จะทำกฎกระทรวงฉบับที่เหลือต่อไป