วันที่ 26 มิ.ย.67 ศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า...(ข่าว) "บทเรียนจากไฟฟ้าดูด" ความปลอดภัยในสถานศึกษาและแนวทางป้องกัน

เหตุการณ์ไฟฟ้าดูดที่คร่าชีวิตนักเรียนในโรงเรียนจังหวัดตรังได้กระตุ้นให้สังคมตื่นตัวถึงความสำคัญของความปลอดภัยทางไฟฟ้าในสถานศึกษา บทความนี้จะวิเคราะห์ปัจจัยที่นำไปสู่อุบัติเหตุ เจาะลึกบทเรียนที่ได้รับ และนำเสนอแนวทางป้องกันที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้โรงเรียนและสถานที่สาธารณะปลอดภัยยิ่งขึ้น

#ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่อุบัติเหตุ

สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากไฟฟ้าดูด ได้แก่ สภาพอากาศที่ฝนตกและมีความชื้นสูง ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดูดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การติดตั้งหรือบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น การขาดสายดิน หรือการใช้สายไฟที่ชำรุด ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่มักถูกมองข้าม ดังนั้น การตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

#วิธีช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างปลอดภัย

ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีช่วยเหลือผู้ประสบเหตุไฟฟ้าดูดอย่างปลอดภัย โดยเน้นว่า ไม่ควรใช้วิธี "ถีบ" ผู้ประสบเหตุ เนื่องจากอาจเป็นอันตรายได้ แต่ควรเลือกใช้วัสดุที่ไม่นำไฟฟ้า เช่น ไม้แห้งหรือพลาสติกแข็ง เพื่อเขี่ยสายไฟหรืออุปกรณ์ที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากตัวผู้ประสบเหตุ ทั้งนี้ การรักษาระยะห่าง การสวมรองเท้า และการตัดกระแสไฟฟ้าที่ต้นทาง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วย

นอกจากนี้ การฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น การทำ CPR กรณีผู้ประสบเหตุหมดสติและไม่หายใจ ก็เป็นทักษะที่ควรรวมอยู่ในการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุ การให้ความรู้แก่สาธารณชนในเรื่องเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงทั้งของผู้ประสบเหตุและผู้ช่วยเหลือได้อย่างมีนัยสำคัญ

#มาตรการป้องกันเชิงรุก

กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดแนวทาง 7 ข้อในการติดตั้งตู้น้ำเย็นอย่างปลอดภัย เช่น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. การติดตั้งระบบป้องกันไฟรั่ว (ELCB) และการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ หากปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้อย่างเคร่งครัดจะช่วยลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุทางไฟฟ้าได้เป็นอย่างมาก

#การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย

การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไฟฟ้าและการจัดอบรมปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกโรงเรียนและสถานประกอบการควรดำเนินการ นอกจากนี้ ควรมีแผนรับมือเหตุฉุกเฉินที่ชัดเจนและฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ การให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของไฟฟ้าและวิธีป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในสถานศึกษาและที่ทำงานได้

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของความปลอดภัยทางไฟฟ้า การแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืนต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน การลงทุนในมาตรฐานความปลอดภัย การให้ความรู้ และการสร้างความตระหนักรู้จะเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทั้งในสถานศึกษาและสถานที่สาธารณะ ไม่เพียงเพื่อปกป้องชีวิตเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสังคมที่มีคุณภาพและยั่งยืนอีกด้วย