การสร้างความปั่นป่วนของกลุ่มจิตเวชที่เตร็ดเตร่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นภาพชินตาที่เห็นได้ทุกวันบนทุกเส้นทาง เจ้าหน้าที่สายตรวจชุดสันติ ตำรวจเทศกิจเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และสายตรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าเจรจากับหญิงอายุประมาณ 60 ปี ที่ถูกเรียกว่า “สาวดาว”หลังจากก่อเหตุแก้ผ้า แล้วเอาขยะโยนกลางถนน และยังพยายามขวางหน้ารถที่สัญจรไปมาบนถนนกะโรม ช่วงตัดทางรถไฟท่าเรียน ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จนรถเกือบชนหลายครั้งชาวบ้านในย่านดังกล่าวได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุและควบคุมสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เจรจาจนสวมเสื้อผ้าได้แต่ยังคงพูดจาไม่ได้ศัพท์ แต่อ้างว่าเป็นการโชว์ความงามเหมือนบนเวที

เจ้าหน้าที่ชุดเทศกิจ ระบุว่า หญิงรายนี้น่าจะเป็นคนไร้บ้านอาศัยนอนอยู่ในวัดแห่งหนึ่งย่านตำบลคลัง ก่อนหน้าเคยเข้าปูดคุยสอบถามแล้วได้ความว่าเป็นคนหาดใหญ่ไม่มีญาติพี่น้องหรือครอบครัว เดินทางมาอยู่ที่นครศรีธรรมราช มาได้ระยะหนึ่งแล้ว และดูเหมือนมีอาการทางจิตเวชร่วมด้วยปกติพูดจาดีและไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใคร มาวันนี้เข้าใจว่าน่าจมีคนเอาเหล้าให้ดื่มจนมีอาการเมาหนักแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งจะต้องควบคุมไว้ก่อนเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับหญิงรายนี้รวมทั้งป้องกันการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถโดยไม่ได้ตั้งใจได้

สำหรับปัญหากลุ่มจิตเวชเดินเตร็ดเตร่บนท้องถนนแทบทุกสายของเมืองนครศรีธรรมราช มีอาการหลายรูปแบบทั้งตระเวนเก็บขยะเน่าเสียในถังขยะรับประทาน เดินหอบขยะของพะรุงรัง หรือนำเอาลวดวัสดุต่างๆมาพันรอบตัว หรือเดินตะโกนด่าทอเกรี้ยวกราดพูดคนเดียว พบเห็นคนเหล่านี้ได้เสมอ ยังเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ตก แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีหน้าที่ในการดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่กลับไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการทำหน้าที่เนื่องจากอาจเกิดปลกระทบตามมากับเจ้าหน้าที่ได้แม้จะนำตัวไปยัง รพ.แล้วก็ตามแพทย์ยังไม่สามารถทำการหัตถการ หรือรักษาอาการ หรือการควบคุมอาการด้วยยาไม่สามารถทำได้เช่นกันหากญาติไม่ยินยอมหรือลงนามยินยอม หากมีการดำเนินการทางกฎหมายแพทย์สามารถต้องคดีได้โดยง่าย ก่อนหน้านี้หลังจากที่นครศรีธรรมราชเป็นข่าวโด่งดังในเรื่องกลุ่มคนวิกลจริต ที่ถูกเรียกใหม่ว่า “คนเชือน”ได้มีความพยายามแก้ไขปัญหา แต่หลังจากที่ผ่านไประยะหนึ่งกลับกลายเป็นไม่สามารถดำเนินการได้เช่นเดิมอีกครั้ง