“เครือข่ายกัญชา” ซุ่มระดมพล ทวงคืนกัญชาสู่ประชาชน ฝากถึง “สมศักดิ์” คนป่วยนับแสนที่ใช้กัญชารักษา จะถูกจับ ใครรับผิดชอบ ขู่ ระวังคำสาปคนโบราณ คนใส่ร้ายกัญชาไม่เคยมีจุดจบดี ปอกเปลือก “ทอม เครือโสภณ” หอบนายทุนฝรั่ง-หนุนกัญชาทางการแพทย์

วันที่ 24 มิ.ย.67 นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมทวงคืนกัญชาสู่ประชาชน เพื่อให้พ้นจากกฎหมายยาเสพติด  ในวันที่ 8 กรกฎาคม ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้หารือกับเครือข่ายกัญชาในทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับเพราะต้องการเขียนประวัติศาสตร์กัญชาไทยร่วมกันของทุกคน โดยในระหว่างนี้ หลายจังหวัดรวมตัวกันยื่นหนังสือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบทุกความเคลื่อนไหวเพื่อนำกัญชาคืนสู่ประชาชน

“วันก่อนผมบอกกับรัฐมนตรีสาธารณสุขว่า ตอนนี้มีคนป่วยที่ใช้ยากัญชารักษาอยู่จำนวนนับแสนคน ที่กำลังทุกข์ทรมานจากโรคร้าย นานาชนิด ที่โรงพยาบาลรักษาไม่หาย หรือไม่มีเงินไปรักษาในโรงพยาบาล ทั้งนี้ เมื่อกัญชากลับสู่ยาเสพติด การใช้กัญชารักษาของผู้ป่วยเหล่านี้จะถูกจับทั้งหมดวิบากกรรมที่เกิดจากการไม่ได้ใช้กัญชาของผู้ป่วยทั่วประเทศ รัฐมนตรีสมศักดิ์และปลัดกระทรวงฯ รวมทั้งอธิบดีทั้งหลาย จะต้องรับวิบากกรรมเหล่านั้นไป ในฐานะคนที่พรากยารักษาไปจากประชาชน คำสาปของคนโบราณมีมาเสมอจนปัจจุบันว่า คนใส่ร้ายกัญชาไม่เคยมีจุดจบที่ดี ขอให้รับทราบว่ากัญชานอกจากรักษาชีวิตคนมาตั้งแต่พันปี กัญชายังอยู่ในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ของหลายชนชาติการกระทำของนายสมศักดิ์ จะก่อความทุกข์ทรมานแก่ผู้ป่วยจำนวนมาก วิบากกรรมเหล่านั้นจะไม่หายไปไหน ยังมีเวลากลับใจครับ” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว

นอกจากนี้เพจ “เขียนอนาคตกัญชาไทย” ยังได้เปิดโปงประวัติของ นายทอม เครือโสภณ ผู้ที่ยืนเคียงข้างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หนุนกัญชากลับไปสู่ยาเสพติด โดยระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีการนำนักธุรกิจชาวต่างชาติเข้าพบรัฐบาล พร้อมนั่งตีคู่รัฐมนตรี-ยกมือหนุนกัญชาทางการแพทย์ เปิดปูมเรื่องราวของอดีตดีลเมกเกอร์การเมืองพรรคเพื่อไทย และเพื่อนหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตลอดจนการเปิดบริษัทกัญชาที่มีกลุ่มทุน “สหรัฐ-แคนาดา-เกาะเคย์แมน” ถือหุ้นด้วย

“ทอม เครือโสภณ” เคยเป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มและสนับสนุนเรื่อง “กัญชาเสรี” โดยมีเส้นทางการเมืองในไทย ซึ่งเคยถูกวิจารณ์ว่าเป็น “องครักษ์” พิทักษ์ตระกูลชินวัตร หลังจากนั้นเจ้าตัวได้โยกย้ายมาอยู่กลุ่ม “วังน้ำยม” ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน ที่ประกาศให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด โดยสมัยนั้นทอมเป็นผู้ประสานงานของกลุ่มมัชฌิมา ซึ่งปัจจุบันแกนนำกลุ่มต่างเป็นรัฐมนตรีในพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเคยออกมายอมรับว่าเป็นเพื่อนกับทอม

ส่วนด้านความเป็นดีลเมกเกอร์ธุรกิจกัญชากับชาวต่างชาตินั้น เส้นทางเริ่มจากเคยเป็นทีมงานของ “บิล คลินตัน” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และโฆษกประจำตัว “ริชาร์ด เรียดัน” ผู้สมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครลอสแองเจลิส จึงมีความสัมพันธ์กับธุรกิจกัญชาทางฝั่งอเมริกัน จนสามารถดีลหุ้นส่วนกับแบรนด์ใหญ่อย่าง Cookies มาเปิดร้านขายกัญชาในไทย และการก่อตั้ง บริษัท Golden triangle health จำกัด (GTH) ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชง-กัญชา โดยมีหนึ่งในนักธุรกิจใหญ่ร่วมถือหุ้นอย่าง ประยุทธ มหากิจศิริ ซึ่งปัจจุบันโดนยื่นฟ้องเรื่องคดีรุกป่า GTH ยังมีการจดทะเบียนผู้ถือหุ้นที่ซับซ้อน โดยมี เอส คอร์ปอร์เรชั่น ลิมิเต็ด สัญชาติฮ่องกง ร่วมถือหุ้นด้วย และในปี 2565 ยังพบการถือหุ้นของนักลงทุน 3 สัญชาติ ได้แก่ บริษัทสัญชาติอเมริกัน ถือหุ้น 65% บริษัทสัญชาติแคนาดา ถือหุ้น 25% และบริษัทที่ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเคย์แมน ถือหุ้น 10%

ชื่อของ “ทอม เครือโสภณ” เคยเป็นข่าวดังในช่วงปี 2565 หลังจาก อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวว่าเขาเป็นผู้ลักลอบนำเข้ากัญชาจากต่างประเทศเข้ามาประเทศไทยและพ่วงข้อหาสำแดงรายการเท็จ ซึ่งช่วงนั้นในแวดวงสายเขียวมีการพูดถึงมากเรื่องมีคนไทยหลายคนนำเข้าดอกกัญชาจากนอกมาตีตลาดในประเทศ ก่อนที่นายทอมจะออกมาให้ข่าวปฏิเสธว่าเรื่องถูกจับนำเข้ากัญชาเป็น “ซูเปอร์เฟกนิวส์” โดยเหตุผลว่าในช่วงนั้นกระทรวงสาธารณสุขห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์กัญชา ซึ่งดอกกัญชาไม่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์แต่เป็นวัตถุดิบ และเชื่อว่าตนเองถูกกลั่นแกล้ง ประกอบกับในช่วงนั้นมีกระสข่าวลือว่ามีการอ้างชื่อพรรคภูมิใจไทยและความเป็นเด็กพรรคภูมิใจไทยในระหว่างที่ถูกจับนำเข้ากัญชา โดยเจ้าตัวปฏิเสธโดยสิ้นเชิง รวมถึงพรรคภูมิใจไทยที่ยกโขยงกันออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว

ล่าสุดชื่อของเขากลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากนำทัพนักลงทุนต่างชาติไปพบรัฐมนตรีก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าไปหารือแนวทาง พร้อมซีนภาพนั่งเคียงข้างท่านรัฐมนตรี สมศักดิ์ เทพสุทิน และมีการพูดออกไมค์กับรัฐมนตรีในห้องประชุมว่า สนับสนุนให้มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ เช่น ควรมีแพทย์แผนปัจจุบันหรือแพทย์แผนไทยอยู่ในร้านจำหน่ายกัญชา พร้อมยืนยันกับสื่อมวลชนว่าไม่มีข้อติดขัดเรื่องกฎหมาย (ประกาศให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด) เพียงแต่ขอให้มีความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติและไม่สนับสนุนให้มีการสูบกัญชาในที่สาธารณะ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่เข้าพบ อาทิ ผู้บริหารบริษัทคุกกี้ ที่เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายกัญชารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา