เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน ที่โรงเรียนบุญวัฒนา (บ.ว.น) ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมสหศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ มีนักเรียนชายหญิงกว่า 3.8 พันคน

ดร.ณัฐพงศ์  ฝอดสูงเนิน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครราชสีมา (รอง ผอ.สพม.นม.) พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้กำลังใจและสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีนักเรียนชั้น ม.6 ตกตึกเสียชีวิต โดยมีนายวิเชียร  ทองคลี่ ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมครูและบุคลากรทางการศึกษานำตรวจสถานที่พบร่างนายธนากร หรือน็อต อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6/11 นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนลานปูนบริเวณหน้าอาคาร 4 ด้านทิศเหนือ ตรวจสอบเบื้องต้นเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง สภาพศพกระดูกหักและบาดแผลฉกรรจ์ หลังพนักงานสอบสวนเวร สภ.เมือง นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา ดำเนินการตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์แล้วได้มอบหมายให้อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาโคราช เคลื่อนย้ายร่างนำส่งโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เพื่อให้แพทย์เวรนิติเวชชันสูตรพลิกต่อไป    

นายวิเชียร เปิดเผยว่า รับแจ้งจากนางณัชชา อายุ 48 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 471 หมู่ 5 ต.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นแม่บ้านของโรงเรียน ฯ เป็นผู้พบศพเป็นคนแรก ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดช่วงเวลา 18.30 น. วานนี้ น้องน็อต ผู้เสียชีวิตหลังเดินทางกลับมาจากพบทันตแพทย์ตามนัดได้มาเล่นบาสที่สนามของโรงเรียนกับกลุ่มเพื่อนวัยไล่เลี่ยกัน ขณะนั้นฝนกำลังเริ่มตั้งเค้าจะตกทุกคนจึงแยกย้ายเดินทางกลับบ้าน นายน็อตได้ปลีกตัวมานั่งอยู่หน้าอาคาร 4 ซึ่งเป็นตึกเรียนสูง 9 ชั้น เพียงลำพัง จากนั้นฝนตกหนักหลายชั่วโมง สอบถามได้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับแม่ซึ่งไม่มีเค้าจะเกิดเหตุร้าย ส่วนบนชั้น 8 จุดที่พลัดตกลงมามีกระเป๋าวางอยู่ข้างหน้าต่างด้านในมีโทรศัพท์มือถือและกุญแจรถจักรยานยนต์แต่ไม่พบร่องรอยที่เชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด เท่าที่พูดคุยกับผู้ปกครองน้องน็อต ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.แชะ อ.ครบุรี ได้ย้ายครอบครัวมาอยู่บริเวณหน้าวัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง  
 
“สนามกีฬาโรงเรียน ทุกวันช่วงเย็นและวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ได้เปิดให้นักเรียนและบุคคลภายนอกเข้ามาใช้สนามเล่นกีฬาเป็นประจำ ช่วงพลบค่ำหลังทุกคนแยกย้ายเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่รับผิดชอบเวรยามจะปิดประตูห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาด้านใน เรามีมาตรการเข้มข้น เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ความสูญเสีย จึงได้ปิดล็อคประตูทางเข้าอาคารทุกแห่งและตระเวนตรวจสอบควบคู่กัน แต่ยังมีบางช่องทางที่คาดไม่ถึง ซึ่งประตูทางเข้าอาคารด้านทิศเหนือชำรุดสามารถเปิดเข้าไปด้านในได้ ส่วนการป้องปรามอาคารเรียนอนุญาตให้เข้าไปด้านในหลังเคารพธงชาติหรือหลังเวลา 08.00 น. ช่วงเย็นช่วงเวลา 17.30 น.จะเดินตรวจทุกห้องและปิดล็อคทันที” นายวิเชียร กล่าวชี้แจง
 
ขณะนี้ได้ประสานนักจิตวิทยามาพูดคุยกับนักเรียนเพื่อนร่วมห้องพร้อมมอบหมายให้ครูที่ปรึกษาอำนวยความสะดวกกับผู้ปกครองในการเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและติดต่อขอรับศพรวมทั้งเยียวยาให้กำลังใจผู้ปกครองอย่างเต็มที่ เราไม่ทอดทิ้ง เบื้องต้นไม่พบประเด็นความขัดแย้งกับเพื่อนหรือครูผู้สอนแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน

ทั้งนี้เมื่อปี 2565 หลังเปิดภาคเรียนที่ 1 ได้เกิดเหตุการณ์สลดนักเรียนมัธยม ใช้อาคารเรียนเป็นสุสานฆ่าตัวตาย รายแรกเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.2  รายที่ 2 นักเรียนชายชั้น ม.6 และรายที่ 3 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 นักเรียนชายชั้น ม.3 ทั้ง 3 ราย มีสาเหตุจากปัญหาส่วนตัวและโรคซึมเศร้า