จากกรณีที่มีเหตุหนุ่มเสื้อแดงขี่รถจักรยานยนต์รายหนึ่งถูกรถสี่ล้อตู้ทึบเล็กของบริษัทชื่อดัง  ขับเลี้ยวออกจากซอยแล้วไปตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของชายเสื้อแดง ทำให้ชายเสื้อแดงนั้นหัวร้อนตะโกนให้ของลับคนขับรถสี่ล้อตู้ทึบ จนทั้งคู่ขับเลี้ยวเข้ามาในซอยที่ดินไทย ในตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนที่จะเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกัน โดยฝ่ายของภรรยาและคนขับรถสี่ล้อตู้ทึบให้การตอนแรกว่า ถูกคนชายเสื้อแดงขับรถจักรยานยนต์ตามมาดักรอระหว่างทางจนต้องจอดรถลงไปเคลียร์ แล้วถูกชายเสื้อแดงคู่กรณีเปิดชกเข้าที่ใบหน้าก่อน จนเกิดการต่อสู้กัน

และฝ่ายของภรรยาและคนขับรถสี่ล้อตู้ทึบยังบอกอีกว่าสาเหตุที่โมโหจัดเลยนั้น เพราะโดนคู่กรณีดึงสร้อยคอทองคำจนขาดจนเกิดการต่อสู้ชกต่อยกัน ฝ่ายคนขับรถตู้ทึบเป็นมวยกว่าจึงชกต่อยชายเสื้อแดงจนหลับกลางอากาศลงไปกองกับพื้น ซึ่งหลังเกิดเหตุทั้งตำรวจ สภ.บางพลี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางไปตรวจสอบและช่วยเหลือชายเสื้อแดงที่บาดเจ็บ เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงดึกที่ผ่านมา (22 มิถุนายน 67 ) แต่จากพยานที่ขับรถผ่านให้ข้อมูลว่าชายเสื้อแดงไม่ได้ถูกคนขับรถสี่ล้อตู้ทึบทำร้ายร่างกายเพียงคนเดียว แต่ยังมีพรรพวกของเขามารุมทำร้ายร่างกายด้วย ซึ่งในตอนแรกทั้งภรรยาและคนขับมิได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่เช่นนี้

 

          ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยง จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพได้ตั้งแต่เริ่มแรกจนมีการขี่รถไปตามพวกมาสมทบ  จะเห็นชัดเจนว่า รถจักรยานยนต์มิได้มาจอดดักรอสี่ล้อตู้ทึบตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่ ทั้งสองคันขับตามกันมาจนมาถึงที่เกิดเหตุ จังหวะนั้นรถจักรยานยนต์อยู่ด้านหลัง แต่คนขับรถสี่ล้อตู้ทึบได้หักเลี้ยวปาดหน้าให้รถจักรยานยนต์หยุด พอรถจักรยานยนต์จอดสนิท คนขับเปิดประตูลงมาและเหมือนจะโต้เถียงอะไรบางอย่าง โดยคนขับรถสี่ล้อตู้ทึบเป็นฝ่ายเปิดฉากชกเข้าที่ใบหน้าของชายเสื้อแดงที่ยังนั่งคล่อมรถจักรยานยนต์ของตัวเอง จนเกิดการตอสู้กัน กะทั่งมีการดึงสร้อยกันจนขาด ทำให้ภรรยาของคนขับสี่ล้อโทรศัพท์ตามพรรพวกโดยอ้างว่าสามีถูกชายเสื้อแดงตามมาหาเรื่อง โดยมีรถสี่ล้อตู้ทึบของบริษัทเดียวกันตามมาสมทบอีก 3 คันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง ซึ่งภาพทั้งหมดจึงขัดแย้งกับคำให้การของสองสามีภรรยาคู่กรณีในตอนแรก และจะกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทางพนักงานสอบสวนจะใช้พิจารณาคดี

 

          ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี ให้ข้อมูลว่า อาการผู้บาดเจ็บก็คือชายเสื้อแดงนั้นอาการปลอดภัยแล้ว แพทย์อนุญาตให้กับบ้านพักแล้ว ในส่วนของการดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจะนัดเข้าให้ปากคำอีกครั้งและนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดไปพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งอาจจะต้องดำเนินคดีทั้งคู่แต่โทษอาจแตกต่างกันในส่วนของภรรยาอาจถูกแจ้งข้อหาร่วมด้วยในข้อหา ให้การสนับสนุนให้มีการทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งจะต้องมาดูหลักฐานและพิจารณาอีกครั้ง ส่วนเพื่อนที่มาสมทบและร่วมวงทำร้ายร่างกายด้วยนั้นจะต้องติดตามตัวมาสอบปากคำและอาจถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จะต้องรอผลการรักษาจากแพทย์อีกครั้งเพื่อใช้ประกอบสำนวนในการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป