วันที่ 23 มิ.ย.67 ที่ บก.สส.บช.น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการจับกุมนายอภิวัฒน์ อายุ 26 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมของกลางในอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องสีเงิน ด้ามจับสีน้ำตาล จำนวน 1 กระบอก ,อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องสีเงิน ด้ามจับสีดำ จำนวน 1 กระบอก,กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 5 นัด
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ โดยเฉพาะปัญหาปืนผิดกฎหมาย ที่ปัจจุบันสถิติอาชญากรรมมีการนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรมมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก ล้วนเป็นต้นตอของการเกิดอาชญากรรม สำหรับพฤติการณ์ นายอภิวัฒน์ หรือแซม กล่าวคือได้มีการค้าขายอาวุธปืนเถื่อนกับกลุ่มเพื่อน ในช่องทางกลุ่มแชท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนทราบว่า นายอภิวัฒน์ หรือแซม นั้นได้มีการทำอาวุธปืนเถื่อน ทำการค้าขายในกลุ่มเพื่อนและมีอาวุธปืนเถื่อนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. จึงทำการขอหมายค้นเพื่อทำการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวที่นายอภิวัฒน์ หรือแซม พักอาศัยอยู่ ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. เข้าทำการตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.255/2567 เข้าตรวจค้นบ้านพัก ซ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร นั้น นายอภิวัฒน์ หรือแซมได้พยายามทำการปีนกำแพงหลังบ้านและวิ่งหลบหนี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถไล่ติดตามและทำการจับกุมควบคุมตัวนายอภิวัฒน์ ไว้ได้ นำตัวมานำตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลง จำนวน 2 กระบอก และกระสุนปืน ขนาด .380 บรรจุอยู่ภายในอาวุธ อีกจำนวน 5 นัด
จากการตรวจสอบประวัติทางคดี พบดังนี้1.ปี 2556 โดนจับคดีลักทรัพท์ในเวลากลางคืน ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ 2.ปี 2556 โดนจับคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี3.ปี 2558 โดนจับคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในพื้นที่ สน.บึงกุ่ม
จากการสอบสวน นายอภิวัฒน์ รับว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ถูกตรวจพบเป็นอาวุธปืนของตนเองจริง โดยที่ผ่านมาจะขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ กระบอกละ 10,000-15,000 บาท ขายไปแล้ว 3-4 กระบอก จากนั้นได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท