ที่นครศรีธรรมราช การปฏิบัติการกวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมายยังคงดำเนินการต่อเนื่อง และนี่คือภาพเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามประมงทะเลปากพนัง และเจ้าหน้าที่ศรชลภาค 2 นครศรีธรรมราช ได้ใช้เรือแอร์โบ๊ท ซึ่งเป็นเรือที่สามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่ ไล่ล่าจับกุมกลุ่มเรือเครื่องมือประมงผิดกฎหมายกลุ่มลอบไอ้โง่ เป็นหนึ่งในเครื่องมือทำลายล้าง โดยสามารถจับกุมได้พร้อมของกลางและผู้ต้องหาขณะพยายามหลบหนีเข้าไปในลำบาง (คือร่องน้ำเล็กๆเข้าสู่ป่าชายเลน) ซึ่งก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ไล่ล่าลำบากจากเรือของทางราชการที่ไม่สามารถติดตามมาในภูมิประเทศแบบนี้ได้ จนกระทั่งมีการปรับแผนและนำเรือแอร์โบ๊ทมาใช้จนสามารถเข้าถึงและเป็นเรือที่สามารถกดดันการทำผิดกฎหมายได้ผลดีมากขึ้น

ขณะเดียวกันการกวาดล้างเครื่องมือผิดกฎหมายจะสังเกตได้ว่าจะมีเรือประมงขนาดเล็กคอยดูการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่ไม่กล้าแสดงตัว หรือขัดขวางเหมือนอดีตที่ผ่านมา ในอ่าวปากพนังและอ่าวนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะกลุ่มลอบไอ้โง่เจ้าหน้าที่จะใช้วิธีการตระเวนเก็บยึดและเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเจ้าของพื้นที่เพื่อติดตามสอบหาเจ้าของ ส่วนการปฏิบัติการตรวจยึดเช่นนี้จะสร้างผลกระทบให้กับนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังชาวประมงซึ่งเป็นผู้ออกทุนในการจัดหาเครื่องมือให้กับชาวประมงซึ่งไม่มีทุนเพียงพอ โดยต่อลอบพับ 1 ลูกของใหม่จากร้านเครื่องมือประมงจะมีราคาสูงถึง 600-800 บาท และการวางต่อครั้งของชาวประมงหนึ่งรายราว 100 ลูก หากถูกยึดทั้งหมดต่อรายต่อครั้งมูลค่าที่เสียหายของนายทุนจะสูงถึง 6-8 หมื่นบาท หากปฏิบัติการตรวจยึดต่อเนื่องจะส่งผลให้นายทุนไม่กล้าออกทุนให้ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านจะเริ่มเลือกกลับไปใช้เครื่องมือถูกกฎหมาย

สำหรับลอบไอ้โง่ หรือลอบพับ ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 67 ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้เครื่องมือทำการประมงชนิดเครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ที่มีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำ สลับซ้ายขวาอยู่ทางด้านข้าง อันเนื่องมาจากเครื่องมือชนิดนี้เมื่อนำมาทำการประมงในแหล่งน้ำหรือทะเลจะจับสัตว์น้ำได้ทุกชนิด แต่ทว่าเครื่องมือชนิดนี้ไม่ได้ห้ามใช้จับสัตว์น้ำในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จึงเป็นช่องทางให้สามารถหาซื้อเครื่องมือในตลาดทั่วไปได้ ก่อให้เกิดปัญหาการใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมายในพื้นที่สาธารณะ.