อีก 3 เดือนเรียนจะจบ!!!น้องโอมวัย 19 ปีร่ำไห้กลายเป็นคนพิการถูกเสี่ยไร่อ้อยผู้ยิ่งใหญ่ ผู้กว้างขวาง ในอ.กุมภวาปีขับรถกระบะเลี้ยวตัดหน้าชนขาหัก 2 ข้าง 6 เดือนไม่มีอะไรคืบหน้า เสี่ยใหญ่ไม่สนไม่เยียวยาบอกคนในครอบครัวน้องโอมคนเก่งไม่พูดเยอะ หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือทั้งคดี การรักษาเต็มที่ พ่อแม่สุดดีใจร่ำไห้ คนจนเรียกร้องอะไรไม่ได้เลยหรือ ขอบคุณน้ำใจ ที่ผ่านมาต้องลาออกจากงานมาดูแลลูก
วันนี้ (21 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ “ทนายโนบิ” พร้อมด้วยทีมทนายความ และนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย,เจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี,ตร.สภ.ศรีธาตุ เจ้าหน้าที่ฯ จากรพ.สต.ตาดทอง เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 9 บ้านโนนสำราญ ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี หลังจากทนายโนบิได้รับเรื่องร้องเรียนจากพ่อและแม่ของน้องโอม นายธนพล อายุ 19 ปี แจ้งว่า ถูกเสี่ยไร่อ้อยคนหนึ่งในอ.กุมภวาปี ขับรถกระบะแล้วเลี้ยวกะทันหัน ทำให้น้องโอมที่ขับรถกลับจากวิทยาลัย ใน ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ชนเข้าอย่างจัง ทำให้ขาหักทั้ง 2 ข้าง เหตุเกิดเวลา 16.00 น.ของวันที่ 8 ธ.ค.66 ผ่านมาเกือบ 7 เดือนไม่ได้รับการเหลียวแลจากคู่กรณี ทั้งๆ ที่ตร.ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วแจ้งว่าเสี่ยไร่อ้อยเป็นคนผิด ไม่ได้รับการดูแลเยียวยาด้วย ทำให้น้องโอมต้องพิการขาเริ่มลีบต้องนั่งวีลแชร์เดินไม่ได้ ส่วนพ่อและแม่ต้องลาออกจากงานมาดูแลลูก ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว
นายณัฐวุฒิ หรือนายแห้ง อายุ 60 ปี พ่อของน้องโอม เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีลูก 2 คนมีอาชีพขับรถพ่วงไปทั่วประเทศส่งลูกเรียน 2 คน น้องโอมเป็นคนเล็ก หลังจากน้องประสบอุบัติเหตุเมื่อปลายดีที่แล้ว เป็นเวลากว่า 7 เดือนตนเองก็ต้องลาออกจากงานมาดูแลลูกช่วยภรรยา อยากจะขอความเป็นธรรมด้วย เพราะหลังเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยมาดูแลหรือเยียวยาอะไรเลย ทั้งๆ ที่ตร.ชี้ชัดไปแล้วว่าเขาเขาเป็นผิดขับกระบะเลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด ตอนที่ไปคุยกันที่สภ.กุมภวาปี ฝ่ายคู่กรณีเขาบอกว่า คนเก่งไม่พูดเยอะ ได้ยินคำนั้นตนเองก็อึ้ง เขาไม่พูดอะไรต่อ เหมือนไม่สนใจคิดว่าเขาใหญ่และกว้างขวาง เท่าที่รู้เขาเป็นเสี่ยไร่อ้อยหลายร้อยไร่ในอ.กุมภวาปีและธุรกิจอีกหลายอย่าง จากนั้นมาคดีก็ไม่คืบหน้า ไม่มีการเหลียวแล การเยียวยาอะไรเลย ทำให้ครอบครัวได้รับความลำบากมาก พ่อแม่ขาดรายได้ ต้องหารับจ้างทั่วไปและมาดูแลลูกที่พิการนั่งวีลแชร์ ผมสงสารลูก เขาเรียนจะจบแล้ว จะหางานทำแต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุแบบนี้ คนจนแบบพวกผมจะเรียกร้องความยุติธรรมไม่ได้เชียวเหรือ หัวอกคนเป็นพ่อพูดไปน้ำตาไหลไป ส่วนนางบังอร แม่ของน้องโอมตื้นตันใจยกมือไหว้ขอบคุณคนทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือเรื่องคดี หลังจากลูกชายต้องพิการขาหักไม่ได้ไปโรงเรียนมากว่า 7 เดือน
น้องโอม เล่าว่า ตนเองขับรถจยย.ไปเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกทุกวันจากบ้าน ระยะทางไปกลับเกือบ 100 กม.ทุกวัน วันเกิดเหตุช่วงเวลา 16.00 น.ขับรถจากวิทยาลัยฯ จะกลับมาบ้าน พอมาถึงสี่แยกบ้านนาแบก ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จู่ๆ ก็มีรถกระบะขับตามหลังมาแล้วเลี้ยวซ้ายตัดหน้ากะทันหัน ทำให้รถจยย.ชนเข้าอย่างจัง ตอนนั้นไม่รู้สึกตัวอะไรเลย มาฟื้นอีกทีที่ รพ.กุมภวาปี ฟื้นขึ้นมาก็รู้ว่าขาหักทั้งสองข้างแล้ว หนูอยากเรียนให้จบ ตั้งใจจะไปหางานทำเก็บเงินช่วยพ่อแม่ แต่มาเป็นแบบนี้หนูไม่ได้เรียนแล้ว ตอนนั้นอีก 3 เดือนจะจบปวช.แต่ขาหักแบบนี้เรียนต่อไม่ได้เลย อยากไปทำงานหารายได้ช่วยพ่อแม่แต่สุดท้ายความฝันก็ต้องมาพังทลาย พ่อแม่ต้องลาออกจากงานมาดูแลหนู ฝากถึงคนขับรถกระบะทำไมใจดำกับหนูขอความเป็นธรรมให้หนูด้วย เขาบอกว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตไม่มีใครทำอะไรเขาได้ คนจนไม่มีสิทธิอะไรเลยหรือ น้องโอมเล่าไปปาดน้ำตาไป
ทางด้านนายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากน้องโอม วันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อหาทางช่วยเหลือ ร่วมกับทนายโน เจ้าหน้าที่ พม.เพื่อหาทางช่วยเหลือน้องโอม ดูจากเหตุการณ์ผ่านมา 7 เดือนน้องโอมยังไม่ได้ความเป็นธรรมจากคู่กรณีเลย ได้ข่าวว่า คู่กรณีเป็นคนมีตังค์ชื่อเสี่ยสมคิด เป็นคนมีอิทธิพลในอ.กุมภวาปีด้วย ตอนที่พูดคุยกันกับพ่อแม่น้องโอมบนสภ.กุมภวาปี เสี่ยฯคนนี้ดูท่าพูดหยิ่งๆ บอกกับพ่อน้องโอมว่าคนเก่งไม่พูดเยอะ จากนั้นก็ไม่เคยมาเหลียวแลไม่เคยมาดูแลน้องเลย ทั้งที่ตร.สรุปสำนวนคดีอุบัติเหตุส่งอัยการแล้วว่า คนขับรถกระบะผิด จากนี้ไป จะมีเจ้าหน้าที่พมจ.อุดรธานี ให้การช่วยเหลือ คุณหมอจากรพ.สต.ตาดทองก็จะเข้ามาดูแลเรื่องฟื้นฟูฯ และทางทนายโนบิจะเดินหน้าช่วยเรื่องคดีให้น้องโอมได้รับความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด